หลังจากจบงาน iCreator Meetup ครั้งที่ 10 “เพราะ Facebook เปลี่ยนแปลงบ่อย ชวนเจ้าของเพจมาจับเข่าคุยกัน!” กันไป ภายในงานก็ได้มีพูดถึงพูดคุยเกี่ยวกับอัลกอริทึม แนวทางการปรับตัว และการดูแลเพจ Facebook
วันนี้ RAiNMaker เลยมีโควตน่าสนใจจากสปีกเกอร์เจ้าของเพจดังทั้ง 3 ท่าน พร้อมสรุปสารถสำคัญที่แต่ละท่านพูดมาฝากกันเล็กน้อยค่ะ
เพิท Ad Addict
“ในการทำคอนเทนต์ ควรหา Balance ระหว่าง Content และ Media กับ Balance ระหว่าง Facebook และช่องทางอื่น”
เพิทเสริมว่า การหา Balance ให้ตัวเอง เมื่อมีหลายช่องทางให้เลือกใช้ เริ่มจากการที่เราต้องกลับไปที่ตั้งต้นว่า สิ่งที่เรายืนหยัดคืออะไร และใช้จุดยืนตรงนั้นบอกเล่าตัวเองออกมาให้ดีที่สุด
และถึงแม้ว่าทุกวันนี้ใช้แค่ Facebook อย่างเดียวอาจไม่พอก็จริง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจำเป็นต้องไปทุกแพลตฟอร์ม เลือกอันที่เหมาะกับเรา โฟกัสแพลตฟอร์มหนึ่งให้เต็มที่ก่อน แล้วค่อยต่อยอดไปแพลตฟอร์มอื่นก็ยังไม่สาย
ส่วนการปรับตัวที่ทำได้ง่ายที่สุดคือ การลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ รวมถึงการทำความรู้จักฟีเจอร์ต่าง ๆ เพื่อปรับตัว
หนุ่ย การตลาดวันละตอน
“การใช้โซเชียลมีเดียเฉย ๆ อาจไม่พอ ควรเก็บ Data เพื่อปรับตัว แทนที่จะรอลุ้นการปรับอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม”
สายการตลาด และ Data อย่างหนุ่มก็แนะนำให้เจ้าของเพจลองเก็บ Data เพื่อนำมาวิเคราะห์ และพัฒนากลยุทธ์ในการดูแลเพจ แทนที่จะใช้ Facebook ในการสื่อสารแบบปกติทั่วไป เพื่อรอลุ้นการปรับอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ หนุ่ยยังแนะนำให้เจ้าของเพจลองใช้ Facebook ในแบบที่คนทั่วไปใช้ เพื่อให้เข้าใจถึงธรรมชาติของแพลตฟอร์มอย่างแท้จริง แถมยังจะช่วยให้เราเจอสิ่งที่ต้องการในฐานะผู้รับสื่อ หรือช่องโหว่ที่สามารถหาทางมาตอบสนองกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย
หนุ่ยเชื่อว่าแต่ละคนมีสูตรความสำเร็จของตัวเอง สำหรับการดูแลเพจก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นความสม่ำเสมอในการค้นหาตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เพจประสบความสำเร็จในแบบของตัวเอง
เอ็ม RAiNMaker
“พยายามเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด หา Core value ของตัวเองให้เจอ และอย่าเป็น V.2 ของคนอื่นในการทำเพจ”
เอ็มกล่าวว่า เนื่องจากคนทำเพจจะไขว้เขวง่ายมาก เลยต้องหาแนวทางเป็น Core Value ของเราให้เจอ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเป็นเวอร์ชันสองของเพจอื่น เพราะฉะนั้นจะทำอะไร ต้องมีเส้นทางของตัวเอง
เริ่มจากการทำความเข้าใจอัลกอริทึมของทั้ง Facebook และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อเข้าใจธรรมชาติ จะได้นำมาปรับใช้กับการทำคอนเทนต์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นนั่นเอง
และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากในงาน iCreator Meetup ครั้งที่ 10 สำหรับใครที่พลาดงานครั้งนี้ไม่ต้องเสียใจไป เพราะในครั้งหน้าเราจะกลับมาพร้อมกับงาน iCreator Meetup ครั้งที่ 11 กับหัวข้อ “TikTok Marketing Case Study เรื่องเล่าคนสร้างแบรนด์ผ่าน TikTok” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 14 ก.ย. เวลา 19.00 – 21.00 น. ที่ AIS D.C. งานฟรีจำนวนจำกัดเหมือนเดิม
ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมว่าสปีกเกอร์จะมีใครบ้าง จะมีอัปเดตตามมาอีกทีทางเพจ RAiNMaker ยังไงก็คอยติดตามข่าวสารกันบนเพจได้เลยนะคะ!
