iCreator ReportInterview

Avatar

patterest September 25, 2025

ส่องกลยุทธ์ขับเคลื่อนแบรนด์ GQ ฟังให้เป็น ปรับให้เร็ว และเชื่อในครีเอเตอร์

เมื่อครีเอเตอร์กลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค วิธีการสื่อสารของแบรนด์จึงไม่ใช่แค่การโฆษณาแบบเดิมอีกต่อไป แต่คือการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับครีเอเตอร์ที่พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวของสินค้า และบริการให้เข้าถึงใจผู้ติดตามมากที่สุด

โดย GQ Apparel เป็นหนึ่งในตัวอย่างของแบรนด์ที่ปรับตัวเร็ว และเข้าใจธรรมชาติของคอนเทนต์ในยุคปัจจุบัน ไม่เพียงแค่ทำสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังพัฒนาแนวทางการสื่อสารให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่ง คุณฝ้าย – คัคนางค์ ชื่นโชคสันต์, Head Marketing จะพาเราไปส่องกลยุทธ์เบื้องหลังแบรนด์ที่สามารถยืนระยะในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

จากแฟชันสู่ฟังก์ชันโดย GQ 

GQ ไม่ได้วางตัวเองเป็นเพียงแบรนด์แฟชันทั่วไป แต่ขยับบทบาทไปสู่การเป็น Tech Apparel ที่เน้นการนำนวัตกรรมเข้ามาเป็นหัวใจหลักภายใต้แนวคิดว่า “เราเป็นนักแก้ปัญหา และอยากทำให้เสื้อผ้าเป็น Last Generation ไม่ใช่ Last Season” คุณฝ้ายกล่าวพร้อมกับย้ำว่าแบรนด์ต้องเริ่มจากการฟัง Pain Point ของผู้บริโภคเพื่อตอบโจทย์ปัญหาในชีวิตประจำวัน สวมใส่มั่นใจ และใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวล 

ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ DNA ของแบรนด์จึงอยู่ที่การผสานคุณภาพ ร่วมกับการใช้นวัตกรรมพัฒนาสินค้าแบบเจาะจงในแต่ละหมวดหมู่เพื่อครองใจผู้บริโภคในระยะยาว ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้การฟังเสียงผู้ใช้จริงไม่ว่าจะผ่านหน้าร้านหรือออนไลน์ โดยเริ่มตั้งคำถามว่า ‘ผู้บริโภคกำลังค้นหาอะไร’ และสินค้าของเราจะเข้าไปช่วยอะไรได้บ้าง แล้วนำมาใช้เป็นข้อมูลเพื่อต่อยอดและปรับปรุงสินค้าให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานจริง 

ขับเคลื่อนอนาคตด้วยเสียงบริโภคกลุ่มใหม่

ไม่ใช่แค่การฟังเสียงผู้บริโภคเท่านั้น แต่ GQ ยังลงพื้นที่เพื่อวิจัย และสัมภาษณ์ผู้ใช้จริง ตัวอย่างจากแคมเปญสินค้าเพื่อผู้ชายหุ่นหมีที่ได้รับความนิยม และจดจำจากคนทั่วไป เพราะ GQ เชื่อว่า “ไม่ว่าหุ่นแบบไหน ทุกคนสมควรจะรู้สึกมั่นใจ”

ทางแบรนด์ได้ทุ่มเวลากว่า 1 ปีในการวิจัย และพัฒนา ผ่านการศึกษาสรีระจริงกว่า 500 จุดบนร่างกายของผู้ชายที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม ด้วยแนวคิด “ออกแบบโดยหมี เพื่อหมี” ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาคือคอลเลกชัน GQ Bear Size ที่ไม่ใช่แค่สบายแต่ยังช่วยเสริมบุคลิก, สร้างความมั่นใจ และเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระด้วย

แนวคิดคอนเทนต์พลิกเกม

เรียกได้ว่าคงไม่มีแบรนด์ไหนไม่เริ่มต้นการทำคอนเทนต์จาก Long-Form แต่ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา GQ ได้เรียนรู้ว่าคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์คนในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องโปรดักชันใหญ่ หรือนำเสนอเรื่องราวจนยาวเกินไป ทำให้จากเดิมที่แบรนด์เลือกทำหนังโฆษณาเต็มรูปแบบเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับ Short-form ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมคนดูในยุคนี้ที่ให้เวลากับคอนเทนต์จำกัด แต่ยังสร้างการรับรู้ได้ครบตาม Marketing Funnel  

โดย UGC เป็นประเภทคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้บริโภค เพราะเป็นการเล่าจากผู้ใช้งานจริงที่ไม่จำเป็นต้องมีการบรีฟที่สวยหรูเกิน ซึ่งแบรนด์จะได้คอนเทนต์มาในสไตล์ของครีเอเตอร์ นอกจากนี้คุณฝ้ายยังแชร์ว่า ประเภทคอนเทนต์แบบชวนคุย, ASMR, การเล่นมีม และ Get Ready With Me ก็ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ใช้แพลตฟอร์มยังไงให้มีประสิทธิภาพ

แต่ละแพลตฟอร์มมีเป้าหมายการใช้ที่ต่างกัน GQ เลือกใช้ตามจุดแข็งของแต่ละช่องทาง ดังนี้

  • Meta: เน้นการใช้เนื้อหาแบบ Visual First เช่น Photo Album เพื่อโชว์สินค้า, ฟีเจอร์ที่โดดเด่น และรีวิวจากผู้ใช้งานจริง รวมถึงการนำเสนอหน้าร้านที่เห็นสินค้าหลากสีหลายไซส์ให้เลือก 
  • TikTok: แน่นอนว่าต้องเป็นการลงวิดีโอแบบ Short-form ไม่เกิน 45 วินาที ที่ Hook ผู้ชมได้ใน 3 วิแรก ละมีโครงสร้างเนื้อหาชัดเจนเพื่อให้ผู้ชมดูจนจบ 
  • Instagram: GQ เริ่มวางแผนทำคอนเทนต์บน Reels และเริ่มสร้างพาร์ตเนอร์กับครีเอเตอร์ เป็นการเพิ่มเอนเกจทั้งตัวแบรนด์ และครีเอเตอร์ โดยจะเน้นไปที่การสร้างแรงบันดาลใจผ่านคอนเทนต์เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ 
  • YouTube: ในส่วนของ Long-Form แบรนด์ได้ลดการลงทุน และเลือกคนที่เป็น Top of Mind ของ YouTube จริง ๆ โดยมุ่งไปที่การนำเสนอคอนเทนต์เชิงแบรนด์ เช่น วิดีโอเบื้องหลังคอลเลกชัน หรือเล่าเรื่องฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ไม่ได้เน้นการโฆษณามาก 

คำแนะนำจากแบรนด์ถึงแบรนด์

ในวันที่แบรนด์สามารถเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ได้เอง สิ่งที่เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดไม่ใช่การสื่อสารให้เก่ง แต่ต้องฟังเสียงของผู้บริโภคให้เป็น ไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์ออนไลน์ หรือการพูดคุยหน้าร้าน เพราะบ่อยครั้งสิ่งที่แบรนด์คิดว่าใช่อาจไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ  

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ ความจริงใจในการสื่อสารออกไป โดยเฉพาะการเล่าผ่านประสบการณ์จริงที่ไม่ดูเป็นคอนเทนต์เชิงการตลาดเกินไป หรือการสร้าง Word of Mouth ให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงความน่าเชื่อถือ ร่วมกับการทำ Personalized Content เจาะจงไปที่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น ถ้าต้องการสื่อสารกับกลุ่มผู้ชายไซซ์หมีที่มีปัญหาไข่เสียดสี ก็ต้องพูดตรง ๆ ว่ากางเกงในเย็นของ GQ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในจุดนั้น เพราะสิ่งนี้คือความจริงที่ลูกค้าต้องการได้ยิน 

นอกจากนี้ GQ ยังเน้นการทำงานแบบ Data-Driven เพื่อเรียนรู้ และประเมินตลอดเวลาว่าอะไรเวิร์ก หรือไม่เวิร์ก เพราะถ้ามันไม่ตรงตามเป้าหมายก็ต้องย้อนกับไปวิเคราะห์ว่ามันผิดพลาดที่จุดไหน หรือถ้าทำดีคือทำได้ดีเพราะจุดไหน เพื่อจะนำไปต่อยอดการบรีฟครีเอเตอร์กับสินค้าอื่น ๆ ให้เกิด Value ใหม่ขึ้นมา 

แบรนด์อาจพลาด ถ้ายังไม่ร่วมงานกับครีเอเตอร์ 

คุณฝ้ายฝากถึงแบรนด์ที่ยังลังเลในการใช้ครีเอเตอร์ว่า ในยุคนี้แบรนด์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเป็นพาร์ตเนอร์กับครีเอเตอร์ได้อีกต่อไป เพราะครีเอเตอร์เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการตลาดสมัยใหม่ ซึ่งในปัจจุบันประเภทของคอนเทนต์ก็หลากหลาย ทำให้แบรนด์จะต้องลองทำงานร่วมกับครีเอเตอร์หลาย ๆ Segment เพื่อลองตลาดที่เหมาะสมกับแบรนด์เรา  

แน่นอนว่าระหว่างทางอาจมีความท้าทายเกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่แบรนด์ต้องมีคือการบรีฟที่ชัดเจน เพื่อสื่อสารให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าสินค้าของเราคืออะไร หรือแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร พร้อม Reference ว่าอยากให้คอนเทนต์ออกไปเป็นภาพแบบไหน ร่วมกับการวัดผลที่จะต้องเห็นได้อย่างชัดเจนเพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกันระหว่างแบรนด์ และครีเอเตอร์ในอนาคต 

Do & Don’t และคำแนะนำสำหรับครีเอเตอร์ในการร่วมงานกับแบรนด์ 

นอกจากการปรับตัวของแบรนด์แล้ว ตัวครีเอเตอร์เองก็จะต้องเข้าหาแบรนด์เช่นกัน ซึ่งสิ่งที่ควรจะมีอย่างแรกคือ การเป็นตัวเอง เพื่อนำเสนอสินค้าออกไปด้วยความจริงใจ และมีการใช้ Storytelling ในแบบของตัวเอง เพราะคนที่รู้จักผู้ติดตามดีที่สุดก็คือเจ้าของช่อง โดยวิธีนี้ไม่เพียงแต่ทำให้คอนเทนต์น่าติดตาม แต่ยังเป็นการสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ชม

ซึ่งครีเอเตอร์จะต้องสื่อสารกับแบรนด์อย่างตรงไปตรงมา เพื่อทำงานร่วมกันออกมาอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างไรก็ตามการเป็นตัวเองไม่ได้แปลว่าอยากพูดอะไรก็พูด เพราะครีเอเตอร์จะต้องทำความเข้าใจว่าคอนเทนต์ที่ดีต้องไม่ทำร้ายแบรนด์จนมีผลกระทบเชิงลบกลับมา   

#GQChallengeลองแล้วจะหนาว เมื่อแคมเปญกลายเป็นไวรัลบน TikTok 

จากโฆษณาในอดีตที่เป็นหนึ่งใน Case Study ที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ GQ อย่างกางเกงในไข่เย็น มาสู่แคมเปญ กางเกงยีนส์เย็นที่ GQ ได้ร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับครีเอเตอร์กว่า 300 คนร่วมทำชาเลนจ์ลองยีนส์เย็นลุ้นเงินล้านบน TikTok นอกจากจะเป็นการทำ Reward Marketing แล้ว คอนเทนต์ที่ครีเอเตอร์ทำ ไม่ว่าจะเป็นการแช่กางเกงในตู้เย็น, ใส่แล้วนั่งสมาธิบนดาดฟ้า, หรือใส่ยีนส์เดือนเดียวไม่เปลี่ยน ก็ถือว่าเป็นการได้ Free Media จากเสียงจริงของผู้ใช้งาน 

ซึ่งผลตอบรับเพียง 3 วันแรกของแคมเปญนี้ทำให้ยอดขายพุ่งเป็นพันตัว และสร้างกระแสบนโลกออนไลน์อย่างล้นหลาม ซึ่งทั้งหมดล้วนเริ่มจากครีเอเตอร์ที่ทำให้ลูกค้าอยากเข้าไปทดลองสินค้าที่หน้าร้าน ส่งผลให้การตลาดหน้าร้านเกิดการรับรู้ และความสนใจจากผู้คนโดยรอบ 

How to ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 

GQ เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ใช้ AI มาช่วยทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการค้นหาครีเอเตอร์หน้าใหม่ด้วยระบบเฉพาะอย่างแม่นยำ ซึ่งได้รับอัตราการตอบกลับจำนวนไม่น้อย วิธีนี้ช่วยขยายการเข้าถึงผู้บริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสูง ตั้งแต่ขั้นตอนคัดกรองครีเอเตอร์ไปจนถึงจบโปรแกรม 

คุณฝ้ายยังเล่าว่า GQ ได้นำ AI มาช่วยเป็นเพื่อนคู่คิดด้าน Content ช่วยวิเคราะห์ต่อยอดไอเดีย ทำให้ทีมสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีโครงสร้างชัดเจน ตอบโจทย์กลยุทธ์ และเข้าถึงใจผู้บริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ทีมยังมีการใช้ AI ในด้าน Visual Creation เพื่อเจนภาพไปจนถึงการสร้าง Mock up งานนำเสนอต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ทีมมองเห็นทิศทางในมุมมองเดียวกัน และลดขั้นตอนการทำงาน เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมมีเวลาโฟกัสกับการพัฒนาอื่น ๆ 

ทั้งหมดนี้คือมุมมองจากแบรนด์ที่ไม่ได้หยุดแค่การพัฒนาสินค้า แต่เดินหน้าสร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภคผ่านครีเอเตอร์ด้วยกลยุทธ์ที่จริงใจ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือการทันต่ออินไซต์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เพราะในโลกที่การแข่งขันสูง แบรนด์ที่เติบโตไม่ใช่แค่แบรนด์ที่เสียงดังที่สุดแต่ต้องเข้าใจผู้คนมากที่สุด

🔗 ติดตามอินไซต์เพิ่มเติม และดาวน์โหลด iCreator Report 2025 ได้ที่: https://www.rainmaker.in.th/icreatorreport/

Copyright © 2025 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save