News
ถือเป็นการอัปเกรดอีกครั้ง หลัง Instagram สังเกตว่าผู้ใช้มักจะชอบการไถฟีดหน้า Reels และใช้เวลาไปกับการ DM (Direct Messages) เยอะ ทำให้จากเดิมที่แท็บด้านล่างเป็นหน้าฟีด เสิร์ช สร้างโพสต์ และ Reels กลับโปรไฟล์ มีการแยก DM ออกมาเลย
Meta เพิ่มการแปลภาษาด้วย AI บน Reels อีก 2 ภาษา ซึ่งมีจุดประสงค์ให้ผู้ชมหลากหลายภูมิภาคดูคอนเทนต์ของครีเอเตอร์จากประเทศอื่น ๆ มากขึ้น จากเดิมที่มีการรองรับเพียงแค่ภาษาอังกฤษ และสเปน ตอนนี้ได้มีการเพิ่มภาษาฮินดี รวมถึงโปรตุเกสเข้ามาร่วมกับการใช้ AI ในการลิปซิงก์เสียงของเราให้ตรงกับภาษาที่เลือกด้วย
สำหรับครีเอเตอร์หลายคนที่กำลังสงสัยว่า “ทำไมอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มถึงไม่ดันคอนเทนต์ของเรา” คำตอบอาจไม่ใช่เพราะคอนเทนต์ที่เราตั้งใจทำไม่ถูกใจผู้ชม แต่เป็นที่อัลกอริทึมไม่ตรวจจับโพสต์ให้ขึ้นฟีด นั่นจึงทำให้ช่องมียอด Engagement ไม่เยอะเท่าที่ควร ทำให้ครีเอเตอร์หันมาสนใจการทำคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์อัลกอริทึมบนแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยม และโดดเด่นในการสร้างตัวตนมากที่สุด คือ Instagram เพราะสามารถนำเสนอภาพลักษณ์ให้ผู้ติดตามเห็นได้ง่าย รวมถึงเป็นแพลตฟอร์มที่คนรุ่นใหม่ และแบรนด์ใช้เป็นจำนวนมาก จึงมีครีเอเตอร์หลายคนให้ความสำคัญกับการลงคอนเทนต์มากขึ้น วันนี้ RAiNMaker จะมาแจกเคล็ดลับในการปรับคอนเทนต์อย่างไรให้ Instagram ถูกใจ และทำให้ผลงานของทุกคนขึ้นฟีดอย่างแน่นอน!
Instagram ได้เพิ่มส่วนที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมคอนเทนต์ Reels ที่จะมองเห็นในหน้าฟีดได้มากขึ้น ด้วยภาพรวมของอัลกอริทึมใหม่ที่จะไฮไลต์เฉพาะหัวข้อของคลิปที่มีความเกี่ยวข้องกับความสนใจของผู้ใช้แต่ละคนโดยตรงมากขึ้น อย่าง ‘Reels Algorithm Control’ นั่นเอง
Instagram เปิดตัว ‘Rings’ รางวัลเพื่อยกย่องพลังแห่งการสร้างสรรค์ให้กับครีเอเตอร์ที่ไม่กลัวที่จะเสี่ยง และกล้าครีเอทีฟผลงานในแบบของตัวเอง พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงเชื่อมโยงผู้คนในคอมมูนิตี้ผ่านผลงาน ซึ่งรางวัลนี้ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ประเภทของคอนเทนต์แต่จะให้ความสำคัญกับเนื้อหามากกว่า
Adam Mosseri หัวหน้า Instagram โพสต์บนบัญชีส่วนตัวเพื่อลบล้างความเชื่อที่ว่า ‘แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียกำลังแอบฟังผู้ใช้ผ่านไมโครโฟนเพื่อบันทึกการสนทนา และฟีดโฆษณาที่เกี่ยวข้อง’ ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในทฤษฎีสมคบคิดที่มีมาอย่างยาวนาน และเป็นสิ่งที่หลายแพลตฟอร์มพยายามโต้แย้งหลายครั้ง หลายคนคงเคยพูด Keyword ของที่เราอยากได้ใส่โทรศัพท์ของตัวเองเพื่อให้สินค้านั้นฟีดขึ้นมา แต่เหตุผลที่มันเป็นเช่นนั้นอาจไม่ใช่เพราะอุปกรณ์แอบฟังเราเสมอไป เพราะเราอาจทำสิ่งเหล่านี้ให้ระบบจำโดยไม่รู้ตัว ได้แก่ การโต้ตอบทางออนไลน์: บางทีเราอาจจะเผลอคลิกสิ่งที่เกี่ยวข้องหรือแม้แต่การค้นหาสินค้า และบริการนั้นทางเว็บไซต์ออนไลน์ก่อนทำให้ระบบทราบกลุ่มเป้าหมายเพื่อกำหนดโฆษณาขึ้นมา ความสนใจที่คล้ายกัน: สิ่งหนึ่งที่ระบบใช้กำหนดคือการอ้างอิงจากความสนใจของเพื่อนหรือคนที่เราติดตาม เพราะการที่เราคอนเน็กกันอาจเป็นไปได้ว่าจะชอบทำสิ่งเดียวกันด้วย รับรู้โดยไม่รู้ตัว: เราอาจเคยเจอโฆษณานั้นมาแล้ว แต่ด้วยพฤติกรรมการเลื่อนฟีดที่เร็ว ทำให้มันผ่านตาไปแบบไม่ทันสังเกต เมื่อเราพูดถึงสิ่งนั้นภายหลังเลยมีโอกาสที่ระบบจะนำโฆษณาเดิมกลับมารันให้เห็นอีกครั้ง ความบังเอิญ: โอกาสแบบสุ่มมันเกิดขึ้นได้เสมอ นอกจากนี้ Meta ได้ประกาศว่าแพลตฟอร์มจะเริ่มใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากการโต้ตอบของผู้ใช้ด้วย AI ซึ่งเป็นการยืนยันว่า Instagram หรือ Facebook เอง ไม่จำเป็นต้องบันทึกบทสนทนาของผู้ใช้ผ่านไมโครโฟนเพื่อฟีดโฆษณาหรือคอนเทนต์ที่แม่นยำจนน่าขนลุก เเนื่องจากระบบการกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการโฆษณาของ Meta แม่นยำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม Adam Mosseri กล่าวว่า “ผมรู้ว่าบางคนจะไม่เชื่อผม ไม่ว่าผมจะพยายามอธิบายมากแค่ไหนก็ตาม” เพราะแม้แต่ภรรยาของตัวเองยังหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาสงสัย แต่สุดท้ายแล้วนอกจากเทคโนโลยีที่พัฒนาแบบก้าวกระโดดในปัจจุบัน ก็อาจเป็นเพียงแค่ความบังเอิญหรือจิตวิทยามนุษย์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องเท่านั้น ที่มา: https://techcrunch.com/2025/10/01/instagram-head-says-company-is-not-using-your-microphone-to-listen-to-you-with-ai-data-it-wont-need-to/
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า