
ล่าสุด Google ได้ปล่อยอัปเดตครั้งสำคัญสำหรับ ‘Gemini’ หลังจากที่แพลตฟอร์ม AI อื่น ๆ สามารถรองรับไฟล์เสียงได้ รวมถึงปรับปรุง ‘NotebookLM’ ให้ทำงานได้หลากหลาย ซึ่งเหมาะกับการทำงานวิจัยเชิงลึกมากยิ่งขึ้น
หลังจากการเรียกร้องอย่างยาวนานของผู้ใช้ ในที่สุด Gemini ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์เพื่อรองรับการอัปโหลดไฟล์เสียง ซึ่งการอัปเดตครั้งนี้ถือเป็นการแก้ไข Pain Point ที่สำคัญของแอป และเพิ่มความหลากหลายในการใช้งานยิ่งกว่าเดิม โดยรายละเอียดของผู้ใช้งานแต่ละแบบมี ดังนี้
- Free User: ผู้ใช้สามารถอัปโหลดไฟล์เสียงได้ไม่เกิน 10 นาทีต่อไฟล์ และจำกัดการป้อนคำสั่งอยู่ที่ 5 ครั้งต่อวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองใช้งานเบื้องต้น เช่น สรุปประชุมสั้น ๆ หรือการถอดความเสียงส่วนตัว
- AI Pro / AI Ultra: สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิ์ภาพมากขึ้น โดยสามารถอัปโหลดได้มากสุดถึง 3 ชั่วโมงต่อไฟล์เสียง ซึ่งครอบคลุมทั้งการถอดบทสัมภาษณ์เชิงลึก, การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการประชุมที่ใช้เวลานาน รวมถึงการทำวิจัยที่ต้องใช้ไฟล์เสียงจำนวนมาก
ทั้งหมดนี้จะทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัดการไฟล์ เพราะผู้ใช้งานทุกรูปแบบสามารถอัปโหลดได้สูงสุด 10 ไฟล์ต่อ 1 การป้อนคำสั่ง ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เสียงประเภทต่าง ๆ ,เอกสาร หรือ ZIP ทำให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมข้อมูลจากหลายแห่งเพื่อให้ Gemini เชื่อมโยงเนื้อหา และวิเคราะห์ข้อมูลในครั้งเดียว
เท่านั้นยังไม่พอฟีเจอร์ NotebookLM ก็ถูกพัฒนาเช่นเดียวกัน โดย Google ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานหรือเอกสารอื่น ๆ ได้หลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สรุปเนื้อหาการเรียน, การบรีฟ, เขียนบทความ หรือทำแบบทดสอบต่าง ๆ และรองรับมากถึง 80 ภาษาด้วย
โดยความยืดหยุ่นในการใช้งานไม่ได้จำกัดแค่ในรูปแบบไฟล์เท่านั้น แต่ยังสามารถปรับโครงสร้าง, โทนเสียง และสไตล์การเขียนให้ออกมาสอดคล้องกับเนื้อหาที่ต้องการได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ NotebookLM ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือสรุปข้อมูล แต่กลายเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้ และวิจัยอย่างแท้จริง
ด้วยการอัปเดตฟีเจอร์ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า Google ต้องการสร้างระบบ AI แบบครบวงจรที่ไม่เพียงแค่ตอบคำถามของผู้ใช้แต่ยังสามารถตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาว และในอนาคตผู้เชี่ยวชาญคาดว่า Gemini อาจถูกรวมเข้ากับบริการอื่น ๆ ของ Google เช่น Maps, Gmail หรือแม้กระทั่ง YouTube เพื่อสร้างระบบที่เชื่อมโยงทุกบริการอย่างสมบูรณ์แบบ