Adam Mosseri หัวหน้า Instagram โพสต์บนบัญชีส่วนตัวเพื่อลบล้างความเชื่อที่ว่า ‘แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียกำลังแอบฟังผู้ใช้ผ่านไมโครโฟนเพื่อบันทึกการสนทนา และฟีดโฆษณาที่เกี่ยวข้อง’ ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในทฤษฎีสมคบคิดที่มีมาอย่างยาวนาน และเป็นสิ่งที่หลายแพลตฟอร์มพยายามโต้แย้งหลายครั้ง
หลายคนคงเคยพูด Keyword ของที่เราอยากได้ใส่โทรศัพท์ของตัวเองเพื่อให้สินค้านั้นฟีดขึ้นมา แต่เหตุผลที่มันเป็นเช่นนั้นอาจไม่ใช่เพราะอุปกรณ์แอบฟังเราเสมอไป เพราะเราอาจทำสิ่งเหล่านี้ให้ระบบจำโดยไม่รู้ตัว ได้แก่
- การโต้ตอบทางออนไลน์: บางทีเราอาจจะเผลอคลิกสิ่งที่เกี่ยวข้องหรือแม้แต่การค้นหาสินค้า และบริการนั้นทางเว็บไซต์ออนไลน์ก่อนทำให้ระบบทราบกลุ่มเป้าหมายเพื่อกำหนดโฆษณาขึ้นมา
- ความสนใจที่คล้ายกัน: สิ่งหนึ่งที่ระบบใช้กำหนดคือการอ้างอิงจากความสนใจของเพื่อนหรือคนที่เราติดตาม เพราะการที่เราคอนเน็กกันอาจเป็นไปได้ว่าจะชอบทำสิ่งเดียวกันด้วย
- รับรู้โดยไม่รู้ตัว: เราอาจเคยเจอโฆษณานั้นมาแล้ว แต่ด้วยพฤติกรรมการเลื่อนฟีดที่เร็ว ทำให้มันผ่านตาไปแบบไม่ทันสังเกต เมื่อเราพูดถึงสิ่งนั้นภายหลังเลยมีโอกาสที่ระบบจะนำโฆษณาเดิมกลับมารันให้เห็นอีกครั้ง
- ความบังเอิญ: โอกาสแบบสุ่มมันเกิดขึ้นได้เสมอ
นอกจากนี้ Meta ได้ประกาศว่าแพลตฟอร์มจะเริ่มใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากการโต้ตอบของผู้ใช้ด้วย AI ซึ่งเป็นการยืนยันว่า Instagram หรือ Facebook เอง ไม่จำเป็นต้องบันทึกบทสนทนาของผู้ใช้ผ่านไมโครโฟนเพื่อฟีดโฆษณาหรือคอนเทนต์ที่แม่นยำจนน่าขนลุก เเนื่องจากระบบการกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการโฆษณาของ Meta แม่นยำอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม Adam Mosseri กล่าวว่า “ผมรู้ว่าบางคนจะไม่เชื่อผม ไม่ว่าผมจะพยายามอธิบายมากแค่ไหนก็ตาม” เพราะแม้แต่ภรรยาของตัวเองยังหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาสงสัย แต่สุดท้ายแล้วนอกจากเทคโนโลยีที่พัฒนาแบบก้าวกระโดดในปัจจุบัน ก็อาจเป็นเพียงแค่ความบังเอิญหรือจิตวิทยามนุษย์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องเท่านั้น