YouTube เผย 7 แนวทางคิดไอเดียคอนเทนต์วิดีโอใหม่ ๆ สำหรับครีเอเตอร์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแรงบันดาลใจหรือหมดไฟ หลังพบว่าหลายช่องบนแพลตฟอร์มเผชิญภาวะไอเดียตันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์สามารถต่อยอดได้ง่ายขึ้น และยังช่วยสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดวิว รวมถึงผู้ติดตามให้มากขึ้นอีกด้วย
- Problem / Solution ( ปัญหา และทางออก ) : YouTube ได้แนะนำให้ครีเอเตอร์ใช้เวลา 15 นาทีลิสต์ปัญหาต่าง ๆ ที่กลุ่มเป้าหมายมักเผชิญ และอีก 15 นาทีสำหรับการหาคอนเทนต์ที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ผู้สร้างมองคอนเทนต์จากมุมมองของผู้ชมโดยตรง และมักเป็นวิธีที่ได้ผลในการสร้างเนื้อหาที่ตรงใจ
- Reinvent Your Greatest Hits (ต่อยอดคลิปแมสเดิม) : การที่ครีอเอเตอร์มีคอนเทนต์ที่เคยเป็นไวรัล ก็สามารถนำเนื้อหาเก่ากลับมาใช้ได้ โดยการค้นหาข้อมูลจาก YouTube Analytics มาวิเคราะห์ว่าวิดีโอไหนของช่องทำผลงานได้ดีที่สุด แล้วนำมาขยายผลเพื่อทำเวอร์ชั่นต่อไป หรือเจาะลึกหัวข้อย่อยเพิ่มเติม ก็เป็นอีกทางหนึ่งในการเพิ่มโอกาสสร้างคอนเทนต์ไวรัลอีกครั้ง
- Tap into Trends (เกาะกระแส) : เรียกได้ว่าการเกาะกระแสเป็นหนึ่งในวิธีการที่ง่าย และรวดเร็วที่สุด โดยใช้เครื่องมือ Trends ใน YouTube Studio และ Google Trends ในการหาว่าผู้ชมกำลังสนใจประเด็นอะไรอยู่ ซึ่งครีเอเตอร์สามารถหยิบมาทำคอนเทนต์ในแบบฉบับของตัวเอง เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้เลย
- Opposite Approach (พลิกมุมตรงข้าม) : ไม่ใช่แค่วิธีการเกาะกระแสที่จะได้ผล การสวนกระแสก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน โดยการนำหัวข้อที่มักถูกพูดถึงในวงการ มาเล่าในมุมตรงกันข้าม แม้วิธีนี้จะดูคล้าย Click Bait แต่ก็ช่วยดึงความสนใจ และนำเสนอแง่มุมใหม่ ๆ ที่แตกต่าง
- Audience Polling (สอบถามผู้ชมโดยตรง) : และอีกหนึ่งวิธีคือใช้โพสต์คอมมูนิตี้บนช่อง YouTube เพื่อทำโพลถามผู้ชมว่าต้องการดูคอนเทนต์แบบไหน หรือเปิดไลฟ์สตรีม Q&A เพื่อรับความคิดเห็นโดยตรง ซึ่งวิธีนี้อาจเหมาะกับช่องที่มีผู้ติดตามจำนวนมากพอสมควร แต่ก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน
- Use Search Data (ใช้ข้อมูลการค้นหา) : หากครีเอเตอร์ใช้ช่องค้นหาของ YouTube เพื่อลองพิมพ์คีย์เวิร์ด จะเห็นคำค้นหาแบบ ‘Long-Tail’ ที่ระบบแนะนำ รวมถึงใช้ฟีเจอร์ ‘People Also Ask’ จาก Google ก็เป็นอีกแหล่งข้อมูลที่สะท้อนความสงสัยของผู้ชมโดยตรง ซึ่งสามารถแปลงเป็นหัวข้อวิดีโอได้
- Mind Map (แตกไอเดียด้วยแผนผัง) : และวิธีสุดท้ายคือ การใช้เทคนิค Mind Mapping โดยเริ่มจากวางหัวข้อหลักของช่องไว้ตรงกลาง จากนั้นแตกแขนงเป็นประเด็นย่อย และต่อยอดไปจนถึงคำถามหรือไอเดียเฉพาะ วิธีนี้จะช่วยให้ครีเอเตอร์มองเห็นภาพรวมได้ชัดขึ้น และสร้างหัวข้อใหม่ ๆ ได้ไม่รู้จบ
สุดท้ายนี้คำแนะนำจาก YouTube ทั้ง 7 แนวทาง สะท้อนให้เห็นว่าแพลตฟอร์ม ไม่ได้เป็นเพียงแค่ช่องทางการเผยแพร่คอนเทนต์เท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนคู่คิดของครีเอเตอร์ ในการสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้ชม และรักษาความสดใหม่เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่น่าติดตามอยู่เสมอ
ที่มา: https://www.socialmediatoday.com/news/youtube-shares-tips-video-content-ideas/758559/
