หากโลกของสตรีมมิงไร้โฆษณา มีโอกาสจะเป็นไปได้ไหมถ้าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จะไร้โฆษณาบ้าง? คำตอบคือเป็นไปได้! เพราะตอนนี้ Meta กำลังแจ้งไปยังผู้ใช้โซนยุโรปแล้วว่าใครที่อยากใช้ Facebook หรือ Instagram แบบ Ad-free จะต้องจ่ายเพิ่มเดือนละประมาณ 720 บาท
เพราะ Instagram จะไม่ได้เป็นแค่แพลฟตอร์มสำหรับโพสต์แค่รูป หรือสตอรีอีกต่อไป แต่จะสามารถอัปเดตความเคลื่อนไหวของผู้ใช้ได้มากขึ้นด้วย ซึ่งทาง Meta ก็ได้เริ่มทดสอบทั้งฟีเจอร์ใหม่อย่าง Nearby, Looping Video และ Verified Feed ด้วย
Meta ได้ทดสอบตัวเลือกโฆษณาทั้งบน Instagram และ Facebook มาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว และก็ได้เปิดให้ใช้งานบน Instagram แต่ครั้งนี้ถึงตาของ Facebook Reels บ้างแล้วที่แบรนด์จะได้ทั้งลง Short Video ไปพร้อมกับขายของแบบ “Collections Ads” ได้ด้วย
Meta เริ่มทดสอบ Generative AI เครื่องมือที่จะกลายเป็นตัวช่วยสร้างโฆษณาให้กับผู้ใช้ที่มี Ads Manager ทั่วโลกมาตั้งแต่เดือนพฤษภามคม และตอนนี้ก็ได้ฤกษ์ที่จะทยอยเปิดให้ใช้งานกันแล้วตั้งแต่วันนี้ และคาดว่าจะอัปเดตให้ใช้กันได้ทั่วโลกภายในปีหน้า
Meta ได้เสนอหน่วยงานกำกับดูแลของ EU เรื่องการออกแพ็กเกจ Ad-Free จากประเด็นเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานในการแสดงโฆษณา โดยให้จ่ายค่าสมาชิกประมาณ 10 ยูโร (ประมาณ 390 บาท) และจ่ายเพิ่มอีก 6 ยูโร (ประมาณ 233 บาท) หากสมัครผ่านแอปฯ บนมือถือ เพื่อหลีกเลี่ยงโฆษณา ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายภาษี หรือยอมรับ Personalized Ads
Facebook เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้สามารถสร้าง Multi-profile หรือโปรไฟล์อื่น ๆ สูงสุด 4 โปรไฟล์ในแอคเคานต์เดียว เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแยกหน้าฟีดและเพื่อนออกจากกันได้สะดวกมากขึ้น เช่น โปรไฟล์หนึ่งไว้สำหรับทำงาน และอีกโปรไฟล์ไว้สำหรับติดต่อกับเพื่อนสนิท โดยที่ไม่จำเป็นต้องล็อกอินแอคเคานต์ใหม่ให้ยุ่งยาก
Meta ได้อัปเดตโลโก้ Facebook ใหม่ ซึ่งหลายคนอาจจะคาดหวังโลโก้ที่มีการตัดทอน หรือมีเปลี่ยนดีไซน์ แต่โลโก้ใหม่ของ Facebook มีอัปเดตแค่การเปลี่ยนให้สีน้ำเงินเข้มขึ้นเท่านั้น
หลังจากที่ Meta มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าสำหรับยืนยันบุคคลทั่วไปปกติราคาประมาณ 430 บาทต่อเดือน และครั้งนี้ก็ได้เปิดตัวเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าสำหรับภาคธุรกิจแล้ว ทั้งบน Facebook และ Instagram ราคาประมาณเดือนละ 800 บาท
ตอนนี้ทาง Meta กำลังเน้นที่จะโฟกัสเรื่อง ‘Messaging Tools for Businesses’ มากขึ้น จึงมีการจัดอีเวนต์ “Conversations” เพื่อเผยเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกิจบน Messenger และ DM วันพฤหัสที่ 21 กันยายนนี้
Instagram ยังคงพัฒนาแอปเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะฟีเจอร์ ‘Close Friends’ ที่ให้ผู้ใช้จัดการว่าจะให้ใครเห็นโพสต์ของตัวเองได้บ้าง ตั้งแต่ Stories, Reels, Live และล่าสุดก็ได้เพิ่มตัวเลือกการโพสต์บนหน้าฟีดให้สามารถเห็นได้เฉพาะคนใน Close Friends เพื่อหวังจะดันการมีส่วนร่วมในกลุ่มเล็ก ๆ มากขึ้น
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
