
สรุปเซสชัน แอบฟังครีเอทีฟคุยกัน: ชีวิตไม่ผิดบรีฟ โดย สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ (นิ้วกลม) และวิชัย มาตกุล (Salmon House) ในงาน CTC2025
เคล็ดลับการเป็นครีเอทีฟ 15 ปี – วิชัย Salmon House

- ความโชคดีในการทำครีเอทีฟช่วงโลก Online กำลังบูม
- เกิดมาในยุคที่หนังโฆษณายาว 20 นาทีเป็นเรื่องปกติ
- การทำงานผ่านมาหลายยุค และปรับมาหลายยุค ช่วยให้เรียนรู้มาหลายยุค
- มีปรับตัวหลายอย่าง แต่ Core Idea ในการคิดว่าทำเพื่ออะไรยังเหมือนเดิม
- ตอนนี้เราอยู่ในยุคคอนเทนต์แนวตั้งที่ความครีเอทีฟถูกบีบให้แคบลง
- เรียนรู้กันไปแบบ Follow Brief ชอบบ้างและไม่ชอบบ้าง แต่ก็ต้องทำให้ได้
- เมื่อไหร่ที่ทำโฆษณา 6 วิจะ Suffer เพราะลูกค้าไม่ได้พูดในสิ่งที่พูด
- การได้ Brief มาไม่ได้แปลว่าต้องก้มหน้าก้มตาทำ แต่ต้องเริ่มเช็ก และตั้งคำถาม เพื่อตีกลับได้เป็นเรื่องปกติ
เคล็ดลับจากคนที่ไม่ได้เป็นครีเอทีฟ แต่ใช้ความครีเอทีฟเสมอ – เอ๋ นิ้วกลม

- ครีเอทีฟเจอ Brief ที่ไม่เชื่อ หรือ Brief ไม่ดี อาจจะทำให้งานออกมาไม่ดี
- การใช้ความครีเอทีฟ คือการสำรวจ Brief ให้รู้ว่ามันเขียนขึ้นมายังไง และจริงไหม เพื่อให้เกิดการตั้งคำถาม
- สิ่งสำคัญคือ ต้องตั้งคำถามกับ Brief ที่ได้รับ
- บางอย่างเป็น Norm แต่สำหรับครีเอทีฟสามารถเปลี่ยน Norm ได้
- มองไปในสังคมว่าคิดอะไร แต่ครีเอทีฟจะมองต่าง และทำอีกแบบหนึ่งให้สังคมเอ๊ะ!
- ครีเอทีฟไม่ได้แค่สร้างงานใหม่ แต่สร้างแนวทางใหม่ในการใช้ชีวิตด้วย
การเป็นครีเอทีฟยุคก่อน vs ครีเอทีฟยุคนี้
ครีเอทีฟยุคก่อน
- กระแสไหนมาแรง ทุกคนจะกลายเป็นเหยื่อของกระแสไปด้วย และให้ความสนใจกับสิ่งนั้นเป็น Impact
- เงื่อนไขของฃยุคก่อนมีความเชื่อเหมือนกัน เพราะถูกสอนมาให้เชื่อเหมือนกัน การสื่อสารจึงชักจูง และโน้มน้าวได้
- การจะมีความคิดสร้างสรรค์ และสร้างให้ตอบโจทย์จะต้องคลุกคลีกับสิ่งที่ผู้คนชอบ และให้ความสนใจ
- ทำตามอัลกอริทึม เพื่อให้อัลกอริทึมเสิร์ฟสิ่งที่ใช่ตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
- Creativity ใช้แค่ตามองสิ่งที่เห็น และใช้สมองคิดในการสร้างตามเทรนด์
ครีเอทีฟยุคนี้
- กระแสไหนมาแรงไม่ว่าจะสั่นสะเทือนในเรื่องไหน แต่ผู้คนอิ่มกับเหตุการณ์ไม่ได้นาน และถูกลืมไป
- ความยากจากเงื่อนไขวิวัฒนาการของ Generations และ Attitude ทำให้เกิดเส้นแบ่งของการสื่อสารในการครีเอทีฟที่ต้องปรับตัว
- การจะมีความคิดสร้างสรรค์ บางครั้งต้องยอมอยู่กับความอลหม่าน พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่ไม่เคยไป อยู่ตรงข้ามกับเทรนด์จะทำให้คิดอะไรใหม่ ๆ ได้มากขึ้น
- ต้องรู้จักดื้อกับอัลกอริทึม เสิร์ชอะไรใหม่ ๆ จนอัลกอริทึมเสิร์ฟไม่ทัน เพื่อเติมอะไรใหม่ ๆ ให้ตัวเอง
- Creativity ต้องใช้ทั้งร่างกาย ลดวัฒนธรรมทางสายตา และสมอง แต่ใช้โสตในการฟัง รับ In-put และปล่อย out-put ใหม่ ๆ
การอยู่รอดในวงการธุรกิจครีเอทีฟ
- ครีเอทีฟห้ามคิดอะไรเหมือนกัน และคิดสิ่งใหม่ยากเพราะไม่มี Reference มาอ้างอิง
- ระบบนิเวศของครีเอทีฟต้องคิดไม่เหมือนคนอื่นบ้าง แต่ไม่ต้องแทงสวนทุกงาน
- บางครั้งต้องเสี่ยงที่จะลอง ถ้าประเมินอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ลงมือทำ
- ถ้าทุกคนคิดเหมือนกันหมด วงการนี้จะไม่มีอะไรโต
- ถ้าเป็นหัวแถวไม่ได้ ก็ต้องรู้เท่าทัน และหาวิธีตั้งแถวใหม่ให้ได้
- หาวิธียืนหัวแถวให้บ่อย ลองทำอะไรใหม่ ๆ โดยไม่ต้องรอหางแถวยาว เพราะหางแถวสั้นก็ได้อะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิตแล้ว
- ทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ เพราะวงการนี้รันไปได้ด้วยการซื่อสัตย์กับสิ่งที่ตัวเองชอบ ไม่ใช่การทำเพื่อชื่อเสียง
- ครีเอทีฟไม่ได้คิดไอเดียเดียว แต่คิดหลายไอเดียเพื่อทิ้ง
AI x Creativity: ครีเอทีฟแทนที่ด้วย AI ได้ไหม
- ใช้ AI คิดแค่ 1,2,3 แสดงว่าทุกคนที่เสิร์ชจะได้ไอเดียเหมือนกัน
- AI เป็นเครื่องมือที่ดี มาแทนยากตราบใดที่มนุษย์ยังมีการพัฒนา แต่คนที่ใช้ AI เป็นจะไปได้ไกลกว่า
- Source AI คือสิ่งที่รวมมาจากอดีต และจะทำให้ผลลัพธ์ที่ต้องการอะไรใหม่ ๆ ได้น้อยลง
- การคิดยังคงเป็นวิธีที่จะทำร่วมกับ AI ได้ แต่ไม่ได้การันตีว่าสิ่งนั้นจะคิดได้ดี
- ต่อไปทุกคนจะมีหลายช่อง มีหลายคอนเทนต์ เพราะ AI จะช่วยปั๊มจนคนเสพคอนเทนต์ไม่ทัน
- ผู้ผลิตคอนเทนต์จะไม่อยากทำ เพราะคอนเทนต์ที่มาจาก AI ได้ยอดดีกว่า
- คนใช้เวลาสร้างสรรค์จากสิ่งเดิมน้อยลง และใช้เวลาไปกับการใช้ AI
- ความขี้เบื่อของมนุษย์ที่ทุกคนทำอะไรเหมือนกัน จะปกป้องมนุษย์จากการครอบงำของ AI ได้
- ความ out of nowhere ของมนุษย์เป็นสิ่งที่ AI ไม่มีวันเข้าใจ และเลียนแบบไม่ได้
ฝากถึงครีเอทีฟ
ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำคอนเทนต์เพราะอะไร และความสุขระหว่างการเป็นผู้สร้างยังมีความหมายอยู่ไหม?