
จากการพัฒนาของ AI กลายมาเป็นเครื่องมือที่แพลตฟอร์มใช้ในการเพิ่ม Performance ของการทำคอนเทนต์และโปรโมตโฆษณา ซึ่ง Meta ก็ได้โพสต์อินไซต์และภาพรวมใหม่อย่าง Video to Drive Performance มาเป็นทิปสำหรับครีเอเตอร์และแบรนด์ในการใช้ AI บน Meta ด้วย
ซึ่ง AI ของ Meta ก็คือ Video Generation 2.0 เป็น AI ระบบอัตโนมัติที่มีบทบาทมากขึ้นในการสร้างโฆษณาดิจิทัล และสามารถกระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับครีเอเตอร์หรือแบรนด์ได้ โดยปัจจุบันได้สร้างจุดเปลี่ยนให้กับผู้สร้างโฆษณามากกว่า 2 ล้านราย
ทั้งกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์หรือเอเจนซีในการทำโฆษณา หรือแม้จะเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอย่าง SME ที่มีทุนน้อยกว่าก็ยังสามารถใช้เครื่องมือ AI ผสานกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Meta ได้ ไม่ว่าจะเป็น Advantage+ Creative หรือ Reels ก็ตาม
เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการตลาดในตอนนี้มีคอนเทนต์วิดีโอหรืออนิเมชันที่เคลื่อนไหวได้สามารถดึงดูดใจได้มากกว่าภาพนิ่ง อย่างแบรนด์ไอศกรีม Ben & Jerry’s ก็มีการทำแคมเปญสินค้าด้วย Advantage+ ที่ใช้ AI ในการเจนแบบ Text to Image และ Text to Video ไปจนถึง Background และ Ad Copy ด้วย
ซึ่งการใช้ AI ของ Meta ในการทำแคมเปญส่งผลให้แบรนด์ Ben & Jerry’s สามารถเพิ่มจำนวนคลิกลิงก์ได้ 7% และลดต้นทุนต่อการคลิกลิงก์ลง 6.5% เมื่อเทียบกับการโปรโมตโฆษณาแบบเดิม นอกจากนี้การใช้ Advantage+ Creative ก็เป็นอีกกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยง และส่วนใหญ่มาจากแคมเปญที่ใช้ฟีเจอร์ Generative AI ก็เป็นรายได้ส่วนใหญ่ไปด้วย
แต่นอกจากฟีเจอร์เครื่องมือ AI ก็มี Reels + Creators ที่ช่วยในการให้เข้าถึง และเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายทั้งบน Facebook และ Instagram ผ่าน Reels ทำให้ Reels กลายเป็นสิ่งสำคัญ 79% ที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีการซื้อสินค้าหลังรับชมคอนเทนต์ โดยระยะเวลาที่ใช้รับชมวิดีโอเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
การที่ครีเอเตอร์หรือแบรนด์ที่เล่าเรื่องผ่าน Reels เป็นจึงได้เปรียบ เพราะสามารถทำให้แคมเปญหรือคอนเทนต์สนุกและเข้าถึงง่ายมากขึ้น แต่ต้องเป็นคลิปแนวตั้งและไม่ซ้อนทับอินเทอร์เฟซ รวมถึงใช้กลยุทธ์ที่มีเสียงตลอดเวลาด้วย จะช่วยลดต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้าได้ 19% และเพิ่มการยกระดับแบรนด์ได้ 71% โดยเฉลี่ย
อย่างแบรนด์ Anua ได้ใช้ Reels ที่ครีเอเตอร์สร้างขึ้นร่วมกับพาร์ทเนอร์โฆษณาให้แบรนด์ได้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งการสร้าง Awareness และ Conversion Rate พร้อมเพิ่มผลตอบแทนจากการใช้จ่ายโฆษณาสำหรับการรับชมคอนเทนต์มากถึง 14.7 เท่า
เรียกได้ว่าอนาคตของ Meta ที่มีทั้งคอนเทนต์บน Facebook และ Instagram กำลังจะเติบโตมากขึ้นเพราะโฟกัสไปที่การใช้ AI และ Reels สำหรับครีเอเตอร์หรือแบรนด์ที่ยังใช้แพลตฟอร์มนี้ในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายอยู่ก็สามารถปรับได้ตามทิปเหล่านี้ได้เลย