OpenAI เปิดตัวสปอตโฆษณา “ChatGPT | The Intelligence Age” ความยาว 60 วินาทีในงาน Super Bowl ช่วงครึ่งแรกของเกม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการปรากฏตัวในงาน Super Bowl ของ OpenAI และคาดว่ามูลค่าของโฆษณาตัวนี้สูงถึง 14 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว โดยโฆษณาถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีของมนุษย์ผ่านแอนิเมชันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะแบบจุด (Pointillism)
ล่าสุด OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ได้ทำการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มาพร้อมกับฟอนต์, โลโก้ และพาเลทสีใหม่ ซึ่งถ้าหากเรามองผ่าน ๆ คงไม่เห็นความแตกต่างของโลโก้เดิมกับโลโก้ใหม่ แต่ถ้าหากนำมาวางเปรียบเทียบกันจะเห็นได้ว่าโลโก้ ‘Blossom’ ที่เราคุ้นเคยนั้นมีช่องว่าง และเส้นที่มองแล้วดูสบายตามากขึ้น
หลังจากเปิดตัว 03-mini ไปเมื่อสองวันก่อน OpenAI ก็ได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่อย่าง ‘Deep Research’ บน ChatGPT เป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์และแหล่งข้อมูลออนไลน์ เพื่อทำรายงานวิจัยในระดับนักวิเคราะห์วิจัย
OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ‘Operator’ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย AI สำหรับเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยดำเนินการโต้ตอบกับเว็บไซต์ได้ เช่นเดียวกับผู้ใช้เป็นคนคลิกเอง เช่น ถ้าผู้ใช้ต้องการจองโรงแรมบนเว็บไซต์ เพียงแค่ป้อนคำสั่งผ่าน ChatGPT ผู้ช่วย AI ก็จะทำหน้าที่เลือก, พิมพ์, คลิก และเลื่อนหน้าผ่านบราวเซอร์ของเราเอง
OpenAI ได้ปล่อยฟีเจอร์ ‘Task’ เวอร์ชันเบต้าใหม่สำหรับ ChatGPT ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งแจ้งเตือนเพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ได้ตามเวลาที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็น Daily, Weekly หรือ Monthly ก็ตาม โดยสามารถส่งแจ้งเตือนได้ทั้งบนเว็บไซต์ และโทรศัพท์เลย
OpenAI ประสบความสำเร็จในการนำหน้าหลายบริษัทในเรื่อง AI และแชตบอทที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกเข้าสู่โลก AI มากขึ้นได้ด้วยพลังของ AI Search Engine หรือที่เรียกว่า “ChatGPT Search” ที่ปล่อยเวอร์ชันเบต้าไปแล้ว แต่ Google ที่เป็น Search Engine อันดับ 1 มานาน ก็เตรียมมี ‘AI Mode’ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ใช้ AI ในการเสิร์ชบ้างเช่นกัน
เรียกได้ว่าปี 2024 ที่กำลังจะผ่านไปนี้เป็นปีทองของ ‘AI’ เลยก็ว่าได้ เพราะ AI ได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น จนเกิดการพัฒนาจากหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้ AI กลายมาเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งสำหรับการสร้างสรรค์งานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกัน AI ก็เป็นเหมือนดาบสองคมที่ผู้คนได้นำไปใช้ในด้านที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน
ในตอนนี้มีผู้ใช้จำนวนมากที่ใช้ AI ในการค้นหาข้อมูล ทำให้ OpenAI เปิดตัว ChatGPT Search โดยฟีเจอร์นี้จะถูกรวมเข้ากับการป้อนคำสั่งบน ChatGPT เพื่อค้นหาข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการทราบ ซึ่งจะดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ และแหล่งข้อมูลออนไลน์ต่าง ๆ ทำให้สามารถแสดงข้อมูลพร้อมกับลิงก์ไปยังแหล่งที่มาได้ทันที
‘Whisper’ เครื่องมือแปลงเสียงเป็นข้อความของ OpenAI ได้รับรายงานจากเหล่าผู้ใช้งานทั้งนักพัฒนา, วิศวกรซอฟต์แวร์ และนักวิจัยว่า Whisper ได้เพิ่มเติมข้อความนอกเหนือสคริปต์ จนทำให้ใจความเนื้อหาบิดเบือนจากเสียงต้นฉบับ
OpenAI เปิดตัว Workspace ใหม่สำหรับ ChatGPT ชื่อ “Canvas” ซึ่งออกแบบมาเพื่อเป็นตัวช่วยด้านการเขียนและการเขียนโค้ด โดย Canvas จะเป็นพื้นที่ Virtual Interface ที่แยกออกจากหน้าต่างแชตหลัก เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเขียนโค้ดได้โดยตรง
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
