ในปีที่ผ่านมาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับนโยบายการควบคุมพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่ไม่เหมาะสม ล่าสุดวันนี้ (7 พ.ค.) ทวิตเตอร์เปิดใช้งานฟีเจอร์แจ้งเตือนผู้ใช้ให้คิดก่อนทวีต เพื่อลดเนื้อหาไม่เหมาะสมที่อาจก่อให้เกิดความเกลียดชัง และกระทบต่อผู้ใช้อื่น
หลังจากที่ทวิตเตอร์ได้เปิดให้ผู้ใช้ร่วมทำแบบสอบถามไปเมื่อเดือนก่อน ล่าสุดก็ได้รับฟีดแบ็กจากแบบสอบถามจำนวน 22,000 ชุด ซึ่งทวิตเตอร์ได้ประกาศว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการยืนยันตัวตนใหม่ ที่ให้ผู้ใช้สามารถส่งคำขอสถานะในการยืนยันตัวตนได้ด้วยตัวเอง ผ่านตัวเลือก Request Verification ที่จะเพิ่มเข้ามา ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มกราคม 2021
ฟีเจอร์ Fleets สามารถทำได้ทุกอย่างเหมือนกับ IG Story เลย ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์เขียนข้อความ, แชร์โพสต์ของคนอื่น หรือจะรีโพสต์รูปภาพ อัดวิดีโอก็ได้ โดยจะมีเวลาแสดงเนื้อหา 24 ชั่วโมงก่อนจะหายไป
Jack Dorsey หรือ CEO ของทวิตเตอร์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัท ว่ารายได้จากโฆษณาในไตรมาสที่ 2 ได้ตกลงมาอยู่ที่ 562 ล้านเหรียญหรือประมาณ 17 หมื่นล้านบาท ซึ่งลดลงถึง 23% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ทวิตเตอร์ออกลูกเล่นใหม่มาอีกเเล้วค่ะทุกคน นั่นก็คือเราสามารถทวีตโดยการใช้เสียงเเทนการพิมพ์ได้เเล้ว จุดประสงค์ของฟีเจอร์นี้คือ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น เพราะบางครั้งเราอาจอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่สะดวกพิมพ์ เช่น ขณะขับรถอยู่ เป็นต้นค่ะ
เนื่องจากในตอนนี้ปัญหาความรุนแรงทางเพศต่อสตรีและเด็กผู้หญิงทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงมาตรการล็อคดาวน์ ทวิตเตอร์จึงเปิดตัวฟีเจอร์บริการแจ้งเตือนรองรับ 7 ภาษารวมถึงภาษาไทย โดยหากมีผู้ใช้งานค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงทางเพศ ก็จะได้รับการแจ้งเตือนเป็นเบอร์สายด่วนที่สามารถช่วยเหลือได้ทันที
สำหรับฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ผ่านระบบ iOS สามารถดูความคิดเห็นอื่นๆ ของโพสต์จากการ Retweet ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถดูได้จากแถบ “มีความคิดเห็น” โดยแถบนี้จะแยกให้เราเห็นอย่างชัดเจน พร้อมบอกจำนวนของการรีทวีตด้วยค่ะ
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
