
จากรายงานของ “High-Tech Crime Report 2025” โดย Group-IB พบว่า ประเทศไทยนั้นได้ติดอันดับ Top 10 กับประเทศที่ตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ ในการแฮก และปล่อยข้อมูลให้รั่วไหลในปี 2024 ท่ามกลางสถิติกว่า 39.19% ของเอเชีย-แปซิฟิกที่ภูมิภาคนี้ตกเป็นเป้าของเหล่าแฮกเกอร์มากที่สุดด้วย
ซึ่งในปี 2024 และเคสในการตรวจสอบทุกภูมิภาคทั่วโลก พบว่ากว่า 1,107 เคสนี้มีข้อมูลของผู้คนมากกว่า 6.4 พันล้านรายการที่ถูกแฮก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับอีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ และรหัสผ่านที่ง่ายต่อการโดนแฮก เพราะมีระดับความปลอดภัยต่ำที่สุด
ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นเป้าหมายให้เหล่าแฮกเกอร์สามารถโจมตีด้วยไวรัส และมัลแวร์ต่าง ๆ ได้บนดาร์กเว็บ และเต็มไปด้วยข้อมูลอีเมลกว่า 6.5 พันล้านรายการ ตามมาด้วยข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์อีก 460 ล้านรายการ โดยสามารถจัดอันดับประเทศในเอเชีย-แปซิกฟิกได้ ดังนี้

- อินเดีย: 49.34%
- อินโดนีเซีย: 14.01%
- บังกลาเทศ: 5.82%
- ไทย: 4.46%
- ไต้หวัน: 3.82%
- ปากีสถาน: 3.05%
- ออสเตรเลีย: 2.59%
- มาเลเซีย: 2.5%
- เนปาล: 2.41%
- เวียดนาม: 1.96%
พร้อมแยก ‘Top industries’ ของเอเชีย-แปซิกฟิกที่เป็นเป้าหมายในการโจมตีของเหล่าแฮกเกอร์

- การศึกษา: 18.8%
- รัฐบาล และการทางทหาร: 12.6%
- บริการทางการเงิน และบัญชี: 7.1%
- คอมเมิร์ซ และชอปปิง: 6.3%
- ไอที: 4.1%
- สุขภาพ: 4.0%
- สื่อ และความบันเทิง: 4.0%
- ขนส่งสาธารณะ: 3.7%
- การบริการที่มีความรู้เฉพาะทาง: 3.2%
- บริการอินเทอร์เน็ต: 2.9%
- อื่น ๆ: 33.4%
เรียกได้ว่าจากผลสรุปของการโจมตีจากเหล่าแฮกเกอร์ในดาร์กเว็บ ประเทศไทยก็นับว่ามีการรั่วไหลของข้อมูล หรือถูกนำข้อมูลไปขายในตลาดมืดมากที่สุดไม่แพ้ภูมิภาคอื่น ฉะนั้นการรักษาความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลจึงสำคัญ
RAiNMaker จึงอยากสนับสนุนให้ทุกคนเปลี่ยนรหัสผ่านในการล็อกอินเป็นประจำ หรือใช้รหัสที่ไม่ซ้ำกัน รวมถึงระมัดระวังในการให้ข้อมูลกับแพลตฟอร์ม และการดาวน์โหลดแอปที่ไม่ปลอดภัยตามลิงก์ต่าง ๆ ด้วยนะคะ
ที่มา – https://go.group-ib.com/hubfs/report/protected/group-ib-high-tech-crime-trends-2025-en.pdf