
งานจบแต่คนไม่จบ! สำหรับงาน MARKETING CONFERENCE 2025 (MKTCON2025) ที่จัดโดย Content Shifu และ CREATIVE TALK งานการตลาดที่รวมพลังนักการตลาดกว่า 3,000 คน จากองค์กร แบรนด์ เอเจนซี และนักการตลาดทั่วประเทศ พร้อมด้วย Speakers กว่า 50 ชีวิต จากทั้ง Global Platform และผู้นำด้านการตลาดในไทย เพื่ออัปเดตเทรนด์และชี้ทางการตลาดแห่งอนาคตให้คนในวงการ
ซึ่งงานนี้พิสูจน์ว่าการตลาดแห่งอนาคตต้องผสาน ความรู้ (Knowledge), เทคโนโลยี (Technology) และการเชื่อมต่อ (Marketing Intelligence) เข้าด้วยกัน โดยงาน MKTCON2025 ได้รวบรวมหลาย Session และ Workshop ที่เจาะลึกอินไซต์วงการ Marketing และวันนี้เราได้สรุป 10 เทคนิคที่นักการตลาดยุค 2025 ต้องรู้มาฝากกัน
1. เลือก Creator จาก Insight ไม่ใช่แค่ตัวเลข
เปลี่ยนจากการมองแค่ยอด Followers หรือความดังของครีเอเตอร์ เป็นการดูอินไซต์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ เช่น พฤติกรรมผู้ติดตาม, ภาษา, หรือความเชื่อมโยงกับสินค้า เพราะเทคนิคนี้จะช่วยให้แคมเปญคุ้มค่ามากขึ้น เนื่องจากเข้าถึงคนที่ใช่จริง ๆ
2. เปลี่ยนจากการ “จ้างโพสต์” สู่ “การเล่าเรื่องร่วมกัน”
แทนที่จะให้ครีเอเตอร์โพสต์ขายของให้ ลองปรับเป็นการทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้น เช่น ออกแบบ Storyline, ผลิตคอนเทนต์ร่วมกับแบรนด์ หรือทำ Co-Creation กับลูกค้า เทคนิคนี้สร้างความน่าเชื่อถือและ Engagement ที่ยั่งยืนกว่า
3. สร้าง Chat Commerce Funnel ด้วย Agentic AI
ใช้ AI เป็นผู้ช่วยขายครบทุกขั้นตอนตั้งแต่ดึงดูด (Attract) ตอบคำถาม (Engage) ปิดการขาย (Convert) กระตุ้นการซื้อซ้ำ (Retain & Grow) จนถึงการยิงแคมเปญ Retarget เทคนิคนี้ช่วยให้แชทกลายเป็นช่องทางรายได้จริง
4. ลงทุนกับ Retention มากกว่า Acquisition อย่างเดียว
งานวิจัยชี้ว่ารายได้ 60–80% มาจากลูกค้าเก่า การตลาดที่ดีต้องมีระบบดึงลูกค้ากลับมา เช่น โปรแกรม Loyalty, การสื่อสารแบบ Personalized, หรือ AI Trigger ที่ยิงโปรโมชั่นตรงเวลา เทคนิคนี้ช่วยให้ ROI สูงกว่าไล่หาลูกค้าใหม่ตลอดเวลา
5. ใช้ AI-Powered CRM แทนการเก็บข้อมูลอย่างเดียว
CRM ยุคใหม่ต้องไม่ใช่แค่ Database แต่ต้องมี AI ที่สรุปอินไซต์อัตโนมัติ, แนะนำแคมเปญ และ Trigger Action ได้ทันที เทคนิคนี้ช่วยลดเวลาการวิเคราะห์ และทำให้ทีมลงมือทำได้เร็วขึ้น
6. ทำ Personalization แบบมีมนุษย์อยู่ในนั้น (Humanized Personalization)
อย่าให้ระบบ Automation ทำงานแข็งทื่อเกินไป เติมความเป็นมนุษย์ เช่น น้ำเสียงที่เป็นมิตร, การเล่าเรื่องที่มีอารมณ์ร่วม หรือการใส่ Empathy ในข้อความ เทคนิคนี้ทำให้แบรนด์ไม่ถูกมองว่าเย็นชาเหมือนบอท
7. Automate สิ่งพื้นฐาน แล้วใช้มนุษย์กับงานสร้างสรรค์
ปล่อยให้ AI จัดการงานที่ต้องการความเร็วและความแม่น เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาล, การจัดการ Workflow, หรือการยิงแคมเปญอัตโนมัติ ขณะเดียวกันให้ทีมโฟกัสกับงานสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และการสร้างความผูกพัน เทคนิคนี้ช่วยให้ทีมทำงานได้ทั้งเร็วและแตกต่าง
8. สร้างระบบ Test → Learn → Repeat อย่างต่อเนื่อง
แทนที่จะทุ่มงบก้อนเดียวแล้วจบ ให้ทดลองเล็ก ๆ วัดผลเร็ว และปรับทันที (Agile Marketing) เช่น การใช้ A/B Test, ทดลองครีเอเตอร์หลายกลุ่ม หรือ Pilot Campaign ก่อนขยายเทคนิคนี้ทำให้เสียหายน้อยถ้าพลาด แต่ได้ผลคูณมากเมื่อเจอวิธีที่เวิร์ก
9. ดึงลูกค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการตลาด (Co-Creation)
ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการออกแบบสินค้า คอนเทนต์ หรือกิจกรรม เช่น เปิดให้โหวตสินค้าใหม่, แชร์ UGC (User Generated Content), หรือจัดแคมเปญ Challenge เทคนิคนี้สร้างการมีส่วนร่วมที่แท้จริง และทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นเจ้าของแบรนด์
10. วางระบบทำงานแบบ Human–AI Collaboration
อย่าคิดว่า AI จะมาแทนมนุษย์ แต่ใช้มันเป็นคู่หู มนุษย์เก่งเรื่องอารมณ์ วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่ AI เก่งเรื่องความเร็ว ความแม่น และ Scale เทคนิคนี้จะทำให้ทีมการตลาดโตได้แบบก้าวกระโดด
ทั้ง 10 เทคนิคนี้มาจากเวที MARKETING CONFERENCE ที่เน้นให้ ทุก Session ไม่ใช่แค่เล่า แต่เป็นสิ่งที่เอากลับไปใช้ได้ทันที เพราะอนาคตของการตลาด ไม่ได้อยู่ที่ใครมีงบเยอะกว่า แต่ที่ใครปรับใช้ Knowledge + Technology + Connection ได้เร็วกว่ากัน
ความสำเร็จของงาน MARKETING CONFERENCE 2025 คือการพิสูจน์ว่าอนาคตของการตลาดไม่ได้อยู่แค่ที่ใครมีงบมากกว่า แต่คือใครเข้าใจอินไซต์, ใช้ AI อย่างชาญฉลาด, และสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับผู้บริโภคได้มากกว่า งานนี้จึงเป็นมากกว่า Conference แต่คือสนามฝึกจริงของนักการตลาดยุคใหม่ที่ต้องพร้อมทั้งปรับตัว และสร้างเกมใหม่ไปพร้อมกัน
สำหรับคนที่มีบัตร MKTCON2025 ติดตามรับชมย้อนหลังทุกเซสชันได้ที่ https://creativetalkonline.com
หากใครสนใจและยังไม่มีบัตร สามารถซื้อบัตร Re-run ในราคาเพียง 990.- ได้แล้วที่ https://www.zipeventapp.com/e/MKTCON2025