รวม 6 เทรนด์ “What’s Next On Social Media 2024” คู่มือพิชิตตลาดจาก Wisesight

โลก Social Media ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นำมาซึ่งเทรนด์ใหม่ ๆ ให้คอยอัปเดตกันทุกปี ไม่ว่าจะเป็น แนวทางคอนเทนต์, E-commerce, ครีเอเตอร์ หรือเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภค

วันนี้ RAiNMaker เลยหยิบ 6 เทรนด์น่าสนใจจากรายงาน “What’s Next On Social Media 2024” ของ Wisesight มาสรุปสาระสำคัญถึงเทรนด์ที่มาแรงน่าจับตา รวมถึง Next Step ของแต่ละวงการมาฝากกันค่ะ!

1. Short Video Trends 

เริ่มกันที่เทรนด์แรก ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับ “Short Video Trends” หรือเทรนด์วิดีโอสั้น ที่ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีท่าทีว่าจะจมหายไปง่าย ๆ ด้วยจำนวนคนที่ดูและเอนเกจกับคลิปวิดีโอสั้นมากขึ้น ทำให้ทุกแพลตฟอร์มเพิ่มวิดีโอสั้นเข้ามาอย่างห้ามไม่ได้

ส่งผลให้คอนเทนต์วิดีโอสั้นมีความสร้างสรรค์หลากหลายมากขึ้น ทั้งจาก UGC ครีเอเตอร์ และแม้กระทั่งแบรนด์เอง จนมีสถิติออกมาว่า

  • 73% คนดูสินค้า/บริการผ่าน Short Video
  • จำนวนแอคเคานต์ TikTok เพิ่มขึ้น 70%
  • Branded Content บน Instagram Reels เพิ่มขึ้น 19%
  • 34% ของคลิปฮิตเป็นคลิปที่ยาวกว่า 1 นาที

Top 8 ประเภทคลิปสั้น

  1.  37% คลิปตลก
  2. 10% คลิปสัตว์
  3. 7% คลิปเต้น
  4. 6% คลิปเพลง
  5. 6% คลิปพากิน
  6. 6% คลิปเด็ก
  7. 5% คลิปทำอาหาร
  8. 3% คลิปคนหน้าตาดี

3 Next Steps ในการทำคลิปสั้น

  1. Bite-size but ‘Bigger’: วิดีโอไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ที่ 1 นาที
  2. Focus on Content: ทำ Long-Form แต่ใช้วิธีคิดเหมือน Short-Form มาต่อกัน
  3. Borderless Entertainment: โอกาสส่งคอนเทนต์ไปต่างประเทศ

2. Social & Live Commerce

ต่อกันด้วยเทรนด์ “Social & Live Commerce” ที่โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยซื้อของบนแพลตฟอร์ม E-commerce กลับกลายเป็นคนหันมาซื้อของบนแพลตฟอร์ม Social Media มากขึ้น แถมเทรนด์การไลฟ์ขายของก็มาแรงตามไปด้วย

  • 29.9% ซื้อสินค้าผ่านออนไลน์
  • 26.6% ดูไลฟ์บน Social Media
  • ปี 2023 Live Streaming โตขึ้น 15 เท่า
  • ตัวขับเคลื่อน Social Commerce = Affiliate Marketing

Top 3 ช่องทางไลฟ์

  1. 38% Facebook
  2. 27% TikTok
  3. 20% Shopee

Top 3 ประเภทสืนค้าที่ไลฟ์

  1. 33% แฟชัน
  2. 28% ความงามและของใช้ส่วนตัว
  3. 22% ของใช้ในบ้าน

สาเหตุที่คนดูไลฟ์

  • 47% สนุก ตลก ดูเพลิน
  • 15% เสพความจิ้น
  • 7% ได้สาระความรู้
  • 3% 2 Ways Communication
  • 2% มีโปรโมชัน ส่วนลด

เทียบ 4 ช่องทาง Live Commerce

Facebook

ข้อดี

  • ผู้ใช้งานมากที่สุด
  • ไลฟ์ผ่านบัญชีส่วน/เพจ/กลุ่ม
  • ดูย้อนหลังได้
  • เชื่อม Instagram ได้

ข้อเสีย

  • ฟีเจอร์น้อย
  • ดูข้อมูลอินไซต์ไม่ได้
  • ไม่มีฟังก์ชันไลฟ์ขายของโดยเฉพาะ

TikTok

ข้อดี

  • ไม่ต้องกดติดตามก็ขึ้นฟีด
  • ไลฟ์กับเพื่อนได้

ข้อเสีย

  • กฎ/ข้อห้ามเยอะ
  • ดูย้อนหลังไม่ได้

Shopee

ข้อดี

  • แจกโค้ดผ่านไลฟ์ได้
  • ดูข้อมูลอินไซต์หลังไลฟ์จบได้
  • ไลฟ์จบคลิปอยู่ในระบบ 90 วัน
  • แจก Live Streaming Packages ให้ร้านค้า

ข้อเสีย

  • ต้องมีสินค้าอย่างน้อย 1SKU ถึงไลฟ์ได้
  • ถ้าไม่มีปุ่มไลฟ์ต้องส่งคำขอก่อน
  • ต้องตั้งชื่อและคำอธิบายก่อนไลฟ์

Lazada

ข้อดี

  • ไลฟ์ได้ทั้งแนวตั้ง/แนวนอน
  • เลือกขนาดแบนเนอร์สินค้าได้
  • ตั้งเวลาไลฟ์ล่วงหน้าได้
  • LazLive Exclusive Price สินค้าราคาพิเศษในไลฟ์
  • ดูข้อมูลอินไซต์หลังไลฟ์จบได้ 7 วัน

ข้อเสีย

  • ต้องส่งคำขอไลฟ์และทดลองไลฟ์ก่อน
  • เพิ่มสินค้าในกระเป๋าสีขาวได้ครั้งละ 3 ชิ้น

3 Next Steps ในการทำ Live Commerce

  1. Understand “Live” Culture: เข้าใจการไลฟ์แต่ละแพลตฟอร์ม
  2. Experience is King: วางแผนและสร้างสรรค์การไลฟ์ให้ดี เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า
  3. AI Powered: ใช้ AI ช่วยในการไลฟ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. The Age of Creator

สำหรับครีเอเตอร์ก็เติบโตขึ้นและรันวงการคอนเทนต์บน Social Media อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ที่น่าสนใจคือ คู่จิ้น กลายเป็นที่นิยมมากขึ้น จนหลายแบรนด์เองก็หันมาทำการตลาดคู่จิ้นด้วย

  • Engagement คำว่า ‘คู่จิ้น’ รวม 1,237 ล้านครั้ง 4 ล้านข้อความ
  • X คือช่องทางหลักที่พูดถึงคู่จิ้นมากที่สุด รวม Engagement 614 ล้านครั้ง 3 ล้านข้อความ

Top 5 กลุ่มแบรนด์ที่ใช้คู่จิ้น

  1. Cosmetic: ยอด Engagement 15 ล้าน
  2. E-commerce Platform: ยอด Engagement 10 ล้าน
  3. Delivery & Logistic: ยอด Engagement 9 ล้าน
  4. Food & Snacks: ยอด Engagement 7 ล้าน
  5. Skincare: ยอด Engagement 5 ล้าน

3 Next Steps ในการใช้ครีเอเตอร์

  1. Be Mindful Digital Footprint: เข้าใจพื้นหลังครีเอเตอร์และบริบทสังคม
  2. Clear Objective and ROI: มีเป้าหมายของแบรนด์และการวัดผลที่ชัดเจน
  3. Leverage Fandom Power: วางกลยุทธ์และใช้พลังของ Fandom

Virtual Influencer

เรียกว่า Virtual Influencer เป็นที่ฮือฮาในช่วงปี 2022-2023 อย่างมาก ทั้ง AI Influencer และ VYuber (Virtual YouTuber) แต่ที่น่าแปลกใจคือ กระแสของ AI Influencer หายไปค่อนข้างเร็ว จนเหลือการพูดถึงอยู่แค่ 132 ข้อความ และมี Engagement เพียง 9 พันครั้งเท่านั้น ด้วยเหตุผลว่า AI Influencer ไม่สามารถมอบประสบการณ์ได้เหมือนมนุษย์

AI Influencer

  • มีการพูดถึง AI Influencer ลดลง 29% จากปี 2022

VTuber

  • VTuber โตขึ้น Engagement 35 ล้านครั้ง สูงขึ้น 66% จากปี 2022
  • ปัจจุบัน VTuber ไทยมีมากกว่า 450 คน
  • กลุ่มเป้าหมายคือคนที่ชอบการ์ตูน และ 59% มีอายุ 18-24 ปี
  • #VTuberThai บน TikTok มียอด 1,170 ล้านวิว
  • มีการจัดกินกรรม Offline กับแฟนคลับมากขึ้น
  • มีการทำ Brand Collaboration ช่วยขายของได้

3 Next Steps ในการใช้ Virtual Influencer

  1. Connected with Sub-culture: ทำความเข้าใจแฟนกลุ่มอนิเมะ/มังงะ
  2. Virtual Character Real Connection: คิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนดู
  3. Extended to New Experience: อนาคตจะรวม AR/VR เข้าไปมากขึ้น

4. Sustainability

อีกหนึ่งเรื่องที่ทั้งโลกให้ความสนใจ คือ เรื่องความยั่งยืน ไม่ว่าจะเรื่องรักษ์โลก หรือ ESG ที่แบรนด์เองก็เข้ามาเล่นในตลาดนี้เยอะพอสมควร แต่ก็มีแบรนด์จำนวนไม่มากเท่าไหร่นักที่ทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ช่วงทำแคมเปญ หรือสามารถเปลี่ยนการรับรู้และพฤติกรรมผู้บริโภคได้จริง

  • ปี 2023 มีมากกว่า 2,000 แบรนด์ทำเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
  • 50% ของแบรนด์เท่านั้นที่ทำต่อเนื่อง
  • 47% ของผู้บริโภคเป็นกลุ่ม Slacktivism คือรับรู้แต่ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง

3 เรื่องที่แบรนด์พูดถึง

  • Green Product
  • Circular Economy
  • ESG Investing

3 Next Steps ผลักดัน Sustainability

  1. Authentic Green: แบรนด์เข้าใจถูกต้องและทำต่อเนื่อง
  2. Convenient Green: ทำเรื่องรักษ์โลกให้เป็นเรื่องง่าย
  3. Green Skill: หาผู้เชี่ยวชาญมาซัพพอร์ต

5. Social Consumer in 2024

คนจะอยู่ในยุค Polarization ที่มีความต่างสุดขั้วในทุกเรื่อง เช่น คนที่มีฐานะก็จะร่ำรวยขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนคนที่ฐานะไม่ดีก็จะลำบากไปเลย รวมไปถึงเรื่องความคิดอ่านที่ต่างกันสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็น

  • Economy vs Luxury: ในยามที่เศรษจกิจไม่ดีก็จะมีกลุ่มคนที่ประหยัดเงินมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อของ จนทำให้ยอดขายสินค้าต่าง ๆ พุ่งขึ้น
  • Tech vs Human: กระแส AI มาแรง และสอดแทรกมาในชีวิตประจำวันมากขึ้น แต่กลับกัน AI ก็ยังมีเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ และมีคนที่ยังรู้สึกกังวลในการใช้ AI อยู่
  • Woke vs Anti-Woke: ทุกประเด็นมีการถกเถียงและแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องละเอียดอ่อนอย่าง เรื่องเงิน อายุ เพศ สังคม และกายภาพ เป็นต้น

6. What’s Next?

  • Find Your Sweet Spot: หาบานลานซ์ในแต่ละจุด 
  • Focus: ยึดเป้าหมายการทำ Social Media ของตัวเอง 
  • AI-powered: ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย 
Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save