ในยุคที่การไลฟ์สตรีมมิงและคอนเทนต์วิดีโอต่างกำลังเป็นไวรัลในโลกโซเชียลสมัยนี้ โดยเฉพาะกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ YouTube ต่างก็ต้องปรับตัวให้สมน้ำสมเนื้อกับคู่แข่งอย่าง TikTok ด้วย ดังนั้นวันนี้เราจึงมีทิปการไลฟ์ฉบับ Meta มาฝากกัน!
โดยปกติแล้วเรามักจะคุ้นชินกับหน้าฟีดของ Instagram ที่มีแยกส่วนหน้าฟีดระหว่าง Reels, โพสต์ และสตอรี แต่คราวนี้ทางแอปกำลังเริ่มทดสอบให้ทั้ง 3 อย่างมารวมกันในโฟลว์เดียวบนหน้าฟีด!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันผู้คนเสพวิดีโอสั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่เป็นวิดีโอแนวยาวเต็มจอที่มีหน้าฟีดแบบ Never-ending หรือเลื่อนหน้าฟีดได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันหมดนั่นเอง จนทำให้หลายแพลตฟอร์มเองก็ได้พัฒนาฟีเจอร์วิดีโอสั้นออกมาแข่งขันกัน เพื่อให้ตอบโจทย์กับพฤติกรรมการรับชมวิดีโอผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคมากที่สุด
ในโลกที่เราสามารถทำอะไรก็ได้แค่มีสมาร์ตโฟนเครื่องเดียว ทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, YouTube และ TikTok นอกจากจะทำให้โลกข้ามพรมแดนนี้ได้รู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้โลกของ eCommerce เปลี่ยนแปลงไปด้วย เพราะการช้อปออนไลน์เริ่มมีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของพวกเขามากขึ้น แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าการตัดสินใจเลือกเข้าแพลตฟอร์มต่าง ๆ นั้นมีความหมายซ่อนอยู่? วันนี้ RAiNMaker เลยจะพามาหาคำตอบกัน!
หลายคนเมื่อเล่น Instagram คงจะมีปัญหาไม่น้อยที่ถูกแนะนำโฆษณา หรือบุคคลใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นหน้ามาให้ติตดาม แต่งานนี้ทางแอปเขาก็ได้เตรียมประกาศปล่อยฟีเจอร์ Algorithm-Free มาให้แล้ว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เราสามารถตั้งค่าได้เองเลยว่าอยากให้หน้าฟีดเน้นโพสต์หรือการอัปเดตใหม่ ๆ ของใครเป็นพิเศษแบบเฉพาะเจาะจง ผ่านการใส่แอคเคานท์ไปเลยนั่นเอง!
จากที่ Instagram ได้หันมาโฟกัสด้าน eCommerce มากขึ้น ทำให้ล่าสุดแพลตฟอร์มได้ประกาศว่าจะเปิดให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถแท็กสินค้าในฟีดโพสต์ได้แล้ว โดยจะเริ่มจากผู้ใช้ในสหรัฐก่อน
สำหรับครีเอเตอร์ใน Instagram หลายคน คงอยากจะมีการแจ้งเตือนอีเวนต์ล่วงหน้าของตัวเองให้ผู้ติดตามได้เตรียมตัวก่อนชมไลฟ์หรือคอนเทนต์ต่าง ๆ วันนี้ทางแอปก็ได้เริ่มทดสอบฟีเจอร์ Scheduled เพิ่ม หรือฟีเจอร์ที่เป็นสติ๊กเกอร์สำหรับสตอรี (Story) บน Instagram แสดงถึง ‘Up coming Events’ ได้แล้ว!
เราเชื่อว่าหลายคนคงมีความรู้สึกอยากกดแสดงความรู้สึกผ่านรีแอ็กชันต่าง ๆ ได้บน Reels เหมือนกับโพสต์บ้าง เพราะอยากให้ครีเอเตอร์ได้รู้แน่นอนว่ารู้สึกอย่างไรกับคอนเทนต์ของพวกเขา ซึ่งก็นับว่าอาจจะเป็นแหล่งกำลังใจชั้นดีเลยก็ว่าได้ และในตอนนี้ Faacebook ก็กำลังพัฒนารีแอ็กชันเหล่านั้นอยู่!
สำหรับสายผลิตคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ ครีเอทีฟ นักการตลาดหรือครีเอเตอร์ ก็คงรู้ดีว่าการวัดผลยอดเอ็นเกจเมนต์ของคอนเทนต์ และแคมเปญต่าง ๆ มักจะขึ้นอยู่กับยอด Reach หรือ Impressions เป็นส่วนใหญ่ แต่ยอดไหนล่ะที่สำคัญที่สุด? วันนี้ทาง RAiNMaker หาคำตอบมาให้แล้ว!
หากพูดถึงเรื่องโซเชียลมีเดีย ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคอนเทนต์อย่าง Short Video หรือวิดีโอสั้นนั้นมาแรงมากจริง ๆ โดยเฉพาะกับเทรนด์อย่าง TikTok จนทำให้แอปอื่น ๆ เริ่มปรับตัวมาเน้นทางด้านวิดีโอกันบ้างแล้ว เพราะขนาด Facebook หรือ Instagram ก็ยังมีวิดีโอจาก Reels เต็มฟีดกันเลยทีเดียว แต่หากมองภาพรวมของแพลตฟอร์มที่นำเสนอคอนเทนต์วิดีโอนั้นก็ล้วนมีเวลาที่แตกต่างกันไป ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า แล้วแต่ละแพลตฟอร์มสามารถดึงดูดความสนใจชาวโซเชียลกันได้กี่วินาทีล่ะ? วันนี้ทาง RAiNMaker เลยหาคำตอบมาให้ถึงที่เลย!
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
