News

Avatar

Thesky March 29, 2024

แชร์ Facebook Ads Benchmarks 2024 พร้อมเทรนด์ และอินไซต์ประยุกต์ใช้กับทุกอุตสาหกรรม

ยุคที่ครีเอเตอร์ แบรนด์ และเอเจนซีต่างก็ต้องแบ่งงบประมาณไว้เพื่อยิงโฆษณาในโลกโซเชียลมีเดีย เพื่อเพิ่มการมองเห็น และเพิ่มยอดเอ็นเกจเมนต์จากกลุ่มเป้าหมายที่สนใจมากขึ้น โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มอย่าง Fcebook ซึ่ง “Facebook Ads Benchmark” จะมียอดวัด และเปรียบเทียบยังไงให้รู้ว่ามีประสิทธิภาพ วันนี้ RAiNMaker มีรีพอร์ตดี ๆ จาก LocaliQ มาแชร์กัน

ปัจจุบัน Facebook มี Active User มากถึง 2 พันล้านแอ็กเคานต์ และมีแนวโน้มที่จำนวนผู้ใช้งานจะเพิ่มขึ้นทุกวันท่ามกลางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีอยู่ นี่จึงเป็นส่วนที่ทำให้ Facebook Ads ยังคงเป็นอีกโซลูชัน และเครื่องมือสำคัญที่นิยมใช้มากในทุกธุรกิจ และอุตสาหกรรม

เพราะ Facebook Ads เป็นตัวช่วยที่เหมาะจะสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness), สร้างการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย (Connection) และดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ (Get New Customer)

แต่จะมีวิธีไหนบ้างที่ทำให้รู้ว่า Facebook Ads ที่ใช้อยู่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีได้จริง? RAiNMaker มีสถิติจาก LocaliQ มาแชร์กันว่าแคมเปญบน Facebook ของแต่ละอุตสาหกรรมนั้นมีทิศทางแบบไหนบ้าง โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลของแคมเปญที่รันอยู่มากถึง 2,936 แคมเปญทั่วโลก ตั้งแต่ 1 กันยายน 2022 – 30 กันยายน 2023 เลยทีเดียว

Key Trends

  • Click-through rate (CTR)

ยอดการคลิกลิงก์ของผู้ติดตามบน Facebook เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ บ่งบอกได้ว่ามีคนคลิปโฆษณาของเราบ่อยแค่ไหน มียอดเพิ่มขึ้นปีต่อปีถึง 9 อุตสาหกรรม จากทั้งหมด 19 อุตสาหกรรมที่ใช้ Facebook Lead Ads โดยเฉพาะกับอุตสาหกรรม Arts & Entertainment และ Education & Instruction

  • Cost per click (CPC)

ยอดมองเห็นโฆษณาของแบรนด์บน Facebook ที่เป็นพื้นที่โฆษณา เพื่อหาความคุ้มค่าในการยิงโฆษณา ที่สถิติปีนี้ลดลงอย่างมากปีต่อปี โดย 9 อุตสาหกรรมลดลงเพราะ Lead objective และอีก 14 อุตสาหกรรมลดลงเพราะ Traffic objective แต่ CPC กลับเพิ่มขึ้นกว่า 91% ในอุตสาหกรรมวงการโฆษณา

  • Conversion rate (CVR)

อัตราส่วนระหว่างกลุ่มเป้าหมาย และเป้าหมายของแบรนด์ หรือจะเรียกสัดส่วนการที่กลุ่มเป้าหมายตอบสนองกับโฆษณาก็ได้ โดยนำมาเทียบกับยอดคลิก ณ ขณะนั้น หรือตาม Lead ที่ตั้งไว้ เปรียบเสมือนเปอร์เซ็นต์ที่กลุ่มเป้าหมายผันตัวมาเป็นลูกค้าจากเป้าหมายที่ถูกตั้งไว้ แต่เพราะความผันผวนของเศรษฐกิจเลยทำให้ยอด CVR ลดลง เพราะผู้บริโภคต้องการซื้อของน้อยลงเช่นกัน

  • Cost per lead (CPL)

จำนวนของเงิน และการลงทุนที่เสียไปเพื่อให้ได้ Lead 1 ครั้งกลับมา ซึ่งในปีนี้ CPL เพิ่มขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มี Search ads และกว่า 91% ของอุตสาหกรรมก็มียอด CPL เพิ่มขึ้นในปี 2023 ด้วย เพราะมีการลงเงินมากขึ้นเพื่อให้ได้ Lead กลับมา

Facebook ads benchmarks: Traffic Campaigns

สำหรับการยิงโฆษณาบน Facebook จะมีตัวเลือก Ad objective ตั้งค่าแต่ละแคมเปญได้ เพื่อให้แบรนด์สามารถสร้างยอด Reach กับกลุ่มเป้าหมายตามที่ต้องการบน Facebook Ads

โดย Traffic objective คือการนำกลุ่มเป้าหมายไปยังหน้า Landing Page เว็บไซต์, แอป หรืออีเวนต์ และกิจกรรมที่ต้องการ โดยจะทำให้กลุ่มเป้าหมายไปเจอกับการตัดสินใจที่จะซื้อ และไม่ซื้อเพิ่มขึ้นด้วย โดยแต่ละอุตสาหกรรมในหมวด Traffic Campaigns มียอด CPC และ CTR เฉลี่ยแตกต่างกันไป

อุตสาหกรรมที่ลงทุน CPC น้อย แต่ได้ยอด CTR กลับมามาก คือ

  • Arts & Entertainment: CPC = 0.44$ | CTR = 2.55%
  • Real Estate: CPC = 0.65$ | CTR = 2.45%
  • Restaurant & Food: CPC = 0.52$ | CTR = 2.29%

อุตสาหกรรมที่ลงทุน CPC เยอะ แต่ได้ยอด CTR กลับมาน้อย คือ

  • Dentists & Dental Services: CPC = 1.27$ | CTR = 0.81%
  • Finance & Insurance: CPC = 1.11$ | CTR = 0.88%
  • Attorney & Legal Services: CPC = 1.15$ | CTR = 0.99%

Facebook ads benchmark: Average CTR (click-through rate)

CTR คือ ยอดที่วัดว่ากลุ่มเป้าหมายคลิกลิงก์เข้าไปดูโฆษณาบ่อยแค่ไหน ซึ่งการวัด CTR จะบ่งบอกได้ว่าโฆษณาบน Facebook มีความน่าสนใจ คุ้มค่าต่อการคลิกเข้าไปดูมากน้อยแค่ไหน และหากค่า CTR ยิ่งสูง ก็ยิ่งแสดงว่า Ad copy ของโฆษณานั้นแข็งแรงที่จะดึงดูดคนมากพอ

อุตสาหกรรมที่มีค่าเฉลี่ย CTR สูง

  • Arts & Entertainment: 2.55%
  • Real Estate: 2.45%
  • Restaurants & Food: 2.29%

อุตสาหกรรมที่มีค่าเฉลี่ย CTR ต่ำ

  • Dentists & Dental Services: 0.81%
  • Attorneys & Legal Services และ Automotive – Repair, Service & Parts: 0.99%
  • Finance & Insurance: 0.88%

Facebook ads benchmark: Average CPC (cost-per-click)

CPC คือ การคำนวณโดยการนำค่าใช้จ่าย และเงินที่ลงทุนทั้งหมด มาหารด้วยจำนวนคลิกทั้งหมด ซึ่งการรักษาตค่า CPC ให้ต่ำได้ ก็หมายความว่าสามารถควบคุมให้การใช้จ่ายน้อย แต่สามารถได้ยอดคลิกหรือ CTR เยอะได้ โดย Traffic objectve มักจะมาจากการการคลิกเข้าชมโฆษณา หรือเส้นทางที่ตั้งค่าสำหรับโฆษณาไว้

อุตสาหกรรมที่มีค่าเฉลี่ย CPC ต่ำ

  • Travel: 0.43$
  • Arts & Entertainment: 0.44$
  • Restaurants & Food: 0.52$

อุตสาหกรรมที่มีค่าเฉลี่ย CPC สูง

  • Dentists & Dental Services: 1.27$
  • Furniture: 1.19$
  • Attorneys & Legal Services: 1.15$

โดยค่า CPC เหล่านี้ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยยอด CPC สำหรับ Google Ads ที่สูงถึง 4$ เพราะยังคงมีค่า Lifetime Avarage Customer สูงอยู่ จึงสมเหตุสมผลมากพอที่มีค่า CPC สูงกว่าอุตสาหกรรมร้านอาหาร หรือความบันเทิงที่ Lifetime Avarage Customer ต่ำกว่านั่นเอง

Facebook ads benchmarks: Leads Campaigns

สำหรับการโฆษณาแบบ Leads Campaign บน Facebook จะสามารถตั้งค่า และป้อนพรอมพ์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ โดยจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแบรนด์ว่าต้องการไดร์ฟค่าไหนมากที่สุด ทั้ง CPC, CPL, CTR และ Conversion Rate และเมื่อคราวนี้วัดยอดด้วย Leads ไม่ใช่ Traffic ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น

อุตสาหกรรมที่ค่าเฉลี่ย CPC ต่ำ แต่ Conversion Rate สูง

  • Arts & Entertainment: CPC = 0.87 | CVR = 9.77
  • Real Estate: CPC = 1.22 | CVR = 9.58
  • Personal Services (Weddings, Cleaners, etc.): CPC = 1.88 | CVR = 8.76

Facebook ads benchmark: Average conversion rate

เพราะ CVR เป็นตัวที่วัดเรตการไดร์ฟของ Facebook ads ได้เป็นอย่างดี โดยคำนวณจากตัวเลขของ Leads ทั้งหมด และยอดการคลิกทั้งหมด ซึ่งยิ่งค่า CVR สูง ก็แปลว่าโฆษณาของเราสามารถเปลี่ยนให้กลุ่มเป้าหมายกลายมาเป็นลูกค้าได้เยอะ

อุตสาหกรรมที่ค่าเฉลี่ย CVR สูง

  • Dentists & Dental Services: 11.34%
  • Industrial & Commercial: 10.13%
  • Arts & Entertainment: 9.77%

อุตสาหกรรมที่ค่าเฉลี่ย CVR ต่ำ

  • Travel: 3.95%
  • Beauty & Personal Care: 4.61%
  • Physicians & Surgeons: 4.99%

Facebook ads benchmark: Average cost per lead

CPL คือ ยอดค่าใช้จ่าย และเงินลงทุนทั้งหมดที่จ่ายเพื่อรักษา Lead ใหม่ ๆ เอาไว้ โดยจะคำนวณจากค่าใช้จ่าย และค่า Conversion ทั้งหมด โดยค่าเฉลี่ยของ CPL ของ Facebook ads lead อยู่ที่ $23.10

อุตสาหกรรมที่ค่าเฉลี่ย CPL ต่ำ

  • Real Estate: $12.43
  • Arts & Entertainment: $13.46
  • Sports & Recreation: $15.33

อุตสาหกรรมที่ค่าเฉลี่ย CPL สูง

  • Attorneys & Legal Services: $78.26
  • Health & Fitness: $60.95
  • Physicians & Surgeons: $60.95

How To ทำให้ Facebook ads มีประสิทธิภาพ

Drive Traffic

  • เลือก Traffic Objective ที่ใช่
  • มี Call to Action ที่ดี เช่น Learn more, Listen now, Order now, Shop now เป็นต้น
  • ทดสอบแคมเปญด้วย A/B Test Button
  • สร้างโฆษณาให้ครีเอทีฟ น่าคลิกไปดูต่อ

Drive leads

  • เลือก Leads objective ที่ใช่
  • หา Logic ของ Form fields ที่มีคุณภาพ เช่น Go to question, Submit form เป็นต้น
  • ตั้งค่า Action ที่ชัดเจนว่าจะให้กลุ่มเป้าหมายทำอะไรต่อไป

Improve CTR

  • CTR ไม่ได้เป็นการวัดที่ดีที่สุดเสมอไป ควรหาการวัดประสิทธิภาพโฆษณาที่ใช่ของตัวเอง
  • ใส่ Emotional Marketing ลง Copy ads ด้วย

Lower ad costs

  • กำหนดกลยุทธ์ให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย
  • ขยายกลุ่มเป้าหมายเป็นคอมมูนิตี้เมื่อจำเป็น
  • ตั้งเวลาโฆษณาเพื่อจำกัดค่าใช้จ่าย แทนการแสดงโฆษณาทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
  • กำหนดวัตถุประสงค์แคมเปญทั้งหมดให้ตรง ถ้ามีประสบการณ์จาก Google Ads ก็จะช่วยได้

ที่มา: https://localiq.com/blog/facebook-advertising-benchmarks/

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save