
Meta เผยข้อมูลเกี่ยวกับ ‘Incremental Attribution Tracking’ ซึ่งเป็นวิธีวัดผลโฆษณารูปแบบใหม่ที่ใช้ AI เข้ามาช่วย เพื่อให้ผู้ลงโฆษณามองเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นจากแคมเปญ แม้ระบบนี้เคยถูกเปิดตัวมาก่อนแล้ว แต่ครั้งนี้ Meta ได้ขยายการเข้าถึงไปยังผู้ลงโฆษณามากขึ้น
โดยก่อนหน้านี้ระบบการวัดผลแบบมาตรฐานของ Meta จะใช้การตั้งค่า ‘Attribution Window’ เช่น 1-7 วัน เพื่อตรวจสอบว่าผู้ที่เห็นโฆษณามีการคลิกหรือซื้อสินค้าภายในเวลาที่กำหนดหรือไม่ แต่การวัดผลในลักษณะนี้ยังถือว่าค่อนข้างกว้าง และไม่สามารถสะท้อนผลลัพธ์ของโฆษณาได้ทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ Meta จึงเพิ่ม Incremental Attribution ซึ่งใช้โมเดล ‘Machine Learning’ ในการคาดการณ์ว่าการซื้อของผู้ใช้เกิดขึ้นเพราะโฆษณาจริงหรือไม่ โดยระบบใหม่นี้สามารถวัดผลได้ดังนี้
- เชื่อมโยงการมีส่วนร่วมกับการซื้อได้แม่นยำขึ้น: แต่เดิมหากมีผู้ใช้กดไลค์, แชร์ หรือดูวิดีโอโฆษณา Meta อาจไม่ได้บอกชัดว่า การซื้อสินค้าหลังจากนั้นเกิดขึ้นเพราะโฆษณาหรือไม่ แต่ Incremental Attribution ใช้ AI และ Machine Learning เป็นเครื่องมือวัดผลการซื้อจากโฆษณา ทำให้ผู้ลงโฆษณาเข้าใจได้ว่าคอนเทนต์ของตัวเองมีอิทธิพลแค่ไหนต่อพฤติกรรมการซื้อ
- ขยายการวัดผลให้สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ซับซ้อนมากขึ้น: พฤติกรรมของผู้ซื้อทุกวันนี้ไม่ได้เป็นเส้นตรง เช่นเห็นโฆษณาแล้วซื้อทันที แต่จะเป็นรูปแบบ Multi-touch Journey หรือการศึกษาข้อมูลก่อนสั่งซื้อ โดยระบบเก่าอาจนับแค่การซื้อภายใน 1–7 วันหลังเห็นโฆษณา อาจทำให้ไม่ครอบคลุม ซึ่งระบบใหม่จะดึงข้อมูลหลายที่เช่น เวลา, การมีส่วนร่วมหลายครั้ง และช่องทางที่เกี่ยวข้อง จากนั้นใช้ AI วิเคราะห์ว่าโฆษณามีอิทธิพลกับพฤติกรรมการซื้อ
- มอบข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นสำหรับผู้ลงโฆษณาที่ต้องการวัดผล ROI: ผู้ลงโฆษณาส่วนใหญ่สนใจว่า ROI ได้ผลตอบแทนกลับมาคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ซึ่งการใช้แค่ตัวเลขคลิก หรือการซื้อภายในเวลาสั้น ๆ อาจทำให้ระบบคำนวนผิดพลาด แต่ Incremental Attribution จะช่วยแยกแยะว่า ยอดขายที่เกิดขึ้นเป็นผลโดยตรงจากโฆษณา และยอดขายที่เกิดขึ้นเองโดยไม่เกี่ยวข้องมีจำนวนเท่าไหร่ สิ่งนี้ทำให้แบรนด์เห็นภาพชัดว่า โฆษณาช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง
โดยทาง Meta ระบุว่าเครื่องมือเหล่านี้สามารใช้งานขณะสร้างชุดโฆษณาใน ‘Ads Manager’ ซึ่งผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกโมเดลการวัดผลได้สองแบบคือ Standard Attribution และ Incremental Attribution เพื่อเข้าใจอิทธิพลที่แท้จริงของโฆษณาในการสร้างยอดขายถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ควรทดลองใช้เลย