
ล่าสุด Meta ได้ออกมาเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ Invisible Watermarking หรือการเพิ่มลายน้ำแบบมองไม่เห็นในวิดีโอ เพื่อระบุที่มาของคอนเทนต์ เช่น มีการใช้ AI ในการผลิตหรือไม่, ผู้โพสต์ต้นฉบับเป็นใคร รวมถึงระบุแพลตฟอร์มในการสร้าง โดยระบบนี้จะถูกฝังอยู่ในตัวไฟล์วิดีโอ ซึ่งไม่สามารถมองเห็น และแก้ไขได้
โดยจำนวนคอนเทนต์ที่ถูกสร้างด้วย AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนผู้ใช้บางส่วนเรียกร้องให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ มีฟีเจอร์ในการกรองเนื้อหา AI ออกจากฟีดของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิด หรือภาพขัดต่อความเป็นจริง
อย่างไรก็ตามการที่แต่ละแพลตฟอร์มจะสามารถกรองเนื่อหา AI ได้จำเป็นต้องมีระบบในการระบุที่มาของเนื้อหาก่อน เป็นเหตุผลให้ Meta แก้ไขปัญหาเหล่านั้นด้วยการพัฒนาระบบ Invisible Watermarking ขึ้นมา
โดย Wes Castro ตัวแทนของ Meta กล่าวถึงเการพัฒนาระบบนี้ว่า ‘ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่ไม่สามารถดูออกได้แล้วว่าวิดีโอไหนสร้างจาก AI เพราะไม่มีจุดตำหนิชัดเจนอย่างนิ้วผิดรูป หรือภาพบิดเบี้ยวอีกต่อไป ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีวิธีใหม่ในการตรวจสอบว่าคอนเทนต์นั้นเป็นของจริงหรือถูกสร้างขึ้นมา’
ทั้งนี้ Invisible Watermarking ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาระบบให้แม่นยำขึ้น นอกจากนี้ Meta ยังเตรียมเพิ่ม Coded Tracking เพื่อช่วยติดตามที่มาของคอนเทนต์ได้ละเอียดกว่าเดิมในอนาคต รวมถึงอาจมีการร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ เพื่อกำหนดมาตรฐานกลางในการตรวจสอบคอนเทนต์จาก AI ด้วย