
Meta อัปเดตเครื่องมือและตัวเลือกใหม่เพื่อช่วยให้แบรนด์สร้าง Partnership Ads กับครีเอเตอร์ได้ง่ายขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์ค้นหาโอกาสร่วมงาน, อินไซต์จากครีเอเตอร์, API สำหรับ Partnership Ads แบบใหม่ และการขยายฐานครีเอเตอร์ให้เลือกมากขึ้น
หลังจากนี้ผู้ที่ลงโฆษณาจะเห็นคอนเทนต์จากครีเอเตอร์ที่แท็กหรือพูดถึงแบรนด์ รวมถึงอินไซต์ของครีเอเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น View, Interactions, Likes, Comments, Shares และ Saves แถมยังสามารถตรวจสอบและจัดการจาก Hub ได้โดยตรง ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้แบรนด์เห็นคอนเทนต์ที่เป็นธรรมชาติและเหมาะกับแบรนด์ รวมถึงสามารถนำโพสต์ไปต่อยอดเป็น Partnership Ads ได้ทันที
อีกทั้งยังมีการเปิดใช้งาน Partnership Ads API สำหรับ Facebook เพื่อเปิดโอกาสให้แบรนด์และเอเจนซีให้ค้นหาครีเอเตอร์ในการร่วมงานได้มากขึ้น รวมถึงเข้าถึงชุดข้อมูลและคอนเทนต์ของครีเอเตอร์เพิ่มเติมได้ด้วย ซึ่ง API ชุดนี้ทำงานเสริมกับ Creator Discovery API ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ซึ่งช่วยให้เอเจนซีและแบรนด์สามารถผสานข้อมูลกับระบบหลังบ้านได้สะดวกขึ้น
รวมถึง Meta ได้เพิ่มโปรไฟล์แบบ Professional Mode เข้าไปในลิสต์ครีเอเตอร์ที่สามารถร่วมงานได้ เพื่อเปลี่ยนโปรไฟล์ส่วนตัวให้เป็นธุรกิจ ทำให้สามารถใช้งาน Creator Tools, สร้างรายได้จากคอนเทนต์บน Facebook และใช้งานระบบวิเคราะห์ข้อมูลได้
โดยตอนนี้ครีเอเตอร์ใน Professional Mode จะปรากฏใน Partnership Ads Hub ทำให้แบรนด์มีตัวเลือกครีเอเตอร์มากขึ้น ทั้ง Creator Page, IG Creators และ Professional Mode Creators
นอกจากนี้ Meta ยังอัปเดตระบบ Permissions ให้ครีเอเตอร์เป็นผู้ให้สิทธิ์ในการยิงโฆษณากับแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ผ่านการสร้างแท็กแบรนด์ตอนสร้าง Branded Content และสามารถส่ง Ad Code ให้แบรนด์ เพื่ออนุญาตใช้โพสต์ทำ Partnership Ads ได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย

สำหรับใครที่สนใจเกี่ยวกับการอัปเดตเรื่อง Creator Partnership ของ Meta สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/business/news/new-ai-powered-tools-to-scale-creator-and-brand-partnerships
ที่มา: SocialMediaToday