
จากเซสชัน ‘อนาคต และทิศทางของวงการภาพยนตร์ไทย’ ใน FILM CHANGES SESSION โดย คุณมิ้นท์ พิมสิริ ทองร่มโพธิ์, คุณกานต์ – ศิวโรจน์ คงสกุล, คุณโจ้พิทยา สิทธิอำนวย งาน Synergy Talk: Creative Change 2025 ของ BrandThink
ชาเลนจ์ในวงการธุรกิจภาพยนตร์
- คนทำหนังมักจะมาดีที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายคนดูจะเป็นคนตัดสิน
- การจะเข้าใจวงการภาพยนตร์ จะต้องเข้ามาอยู่ในวงการ ไม่ใช่ฉาบฉวยแล้วบอกว่าวงการนี้ไม่ดี
- ต้องเชื่อว่าการทำหนังเป็นธุรกิจ แต่คนดูหนังไม่ได้เป็นธุรกิจ เพราะเลือกดูหนังจากความถูกใจ (สหมงคลฟิล์ม)
- พฤติกรรมของคนยุคนี้ มีช่วงเวลาที่ให้ความสนใจการดูหนังในโรงสั้นลง และพอใจกับคลิปสั้นมากกว่า ทำให้ตัวอย่างแค่ 15 วินาทีแรกต้องฮุกคนดูให้อยู่
- ไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจอะไร จะต้องเข้ามาอยู่ใน Attention Economy ในการแย่งความสนใจของผู้คน
- คนทำหนังไม่ควรดูถูกคนดู เพราะตา และหูของคนดูเปลี่ยนไปทุกยุค และรู้ทันคนทำหนังได้ตลอด
MassMarketing ไม่สามารถทำงานกับคนยุคนี้ - พฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ให้ความเชื่อมั่นในหนังมากขึ้น

ทิศทางวงการภาพยนตร์ไทย
- ภาพยนตร์ไทยจะหลากหลายขึ้น
- หนังหลาย ๆ เรื่องถ้ามีโอกาสได้โปรโมต ก็จะได้ดูหนังเรื่องนั้นมากขึ้น
- คนทำหนังควรทำหนังเพื่อคนดูหนัง และไม่ควรทำหนังเพื่อแฟนคลับ เพราะถ้าหนังดีอยู่แล้ว แฟนคลับจะตามมา และทำให้หนังเป็นที่รู้จักเอง
- ยังมีเรื่องให้เรียนรู้ และค้นคว้าอีกมากในวงการภาพยนตร์ไทย
- การทำหนังควรเป็นการรวมพลังของหลายภาคส่วน เช่น ค่ายหรือโรงหนังเอาสถิติมาคุยกันกับคนทำหนัง และมีการทดลองในอุตสาหกรรมเร็วขึ้น
“วงการนี้มีแต่คนที่ทำงานอย่างมืออาชีพเท่านั้นที่จะอยู่ในวงการนี้ได้ เพราะต้อง convince ในหลายภาคส่วน”
