กราฟิกดีไซน์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นถึง Visual ของคอนเทนต์ รวมไปถึงสไตล์ Mood & Tone และภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ด้วย ซึ่งดีไซน์เหล่านี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลา
เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่เหล่าครีเอเตอร์โดยเฉพาะสายกราฟิก ที่ต้องคอยอัปเดต และตามติดเทรนด์ต่าง ๆ เพื่อนำมาต่อยอดสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้โดดเด่น และดึงดูดสายตาผู้คนบนโซเชียลมีเดียให้ได้
วันนี้ RAiNMaker เลยรวบรวม 7 เทรนด์ดีไซน์จาก Depositphotos เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้ทุกคนนำไปใช้สร้างสรรค์งานกราฟิก และวางแผนให้กับผลงานในอนาคต จะได้ไม่ตกเทรนด์และหลุดจากความสนใจของกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง
Vintage & Futurism
ดังคำพูดที่ว่า ‘Old is new’ สิ่งเก่าก็คือสิ่งที่ถูกนำกลับมาประยุกต์ใช้ใหม่ในทุกวันนี้ การนำความวินเทจ หรือกลิ่นอายของความเป็นอดีต เข้ามาผสมสานกับความเป็นอนาคตสุดล้ำ จะช่วยทำให้ผลงานออกมาเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก
โดยการนำพื้นหลังภาพแนววินเทจกับสีนีออนมาใช้ในการออกแบบ จะช่วยเพิ่มความรู้สึกเหมือนความเป็นสิ่งใหม่ แต่ก็ยังคงถึงความทรงจำในแบบที่คุ้นเคยไว้อยู่ด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของงานเลยก็ว่าได้
Vibrant fonts
การใช้ตัวหนังสือที่ดูมีชีวิตชีวา มีการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตัวหนังสือตัวใหญ่สะดุดตา หรือรูปร่างแปลกประหลาด ก็จะช่วยทำให้งานออกมามีความสนุก ให้พลัง และดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี แถมยังสามารถช่วยสร้างความตรึงใจให้คงอยู่ในระยะยาวได้อีกด้วย
Color overload
ตามปกติแล้วเราควรใช้ 3 สีหลักในงานกราฟิก แต่ปัจจุบันผู้คนก็ได้ก้าวออกจากกรอบเดิม ๆ โดยการใช้สีสูงสุดถึง 5 สี และใช้เทคนิคการเน้นสีจัด ๆ หรือคู่สีที่แปลกใหม่ รวมถึงการไล่ความเข้มอ่อน และการกระจายของสีมากขึ้น
เพื่อให้ผลงานออกมามีความโดดเด่น ซึ่งพบได้มากทั้งในงานกราฟิกประเภทโปสเตอร์ แม็กกาซีน ปกอัลบัม หรือแม้กระทั่งบนบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
Kinetic Typography
ฟอนต์เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญในงานกราฟิก เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ฟอนต์ที่ถูกต้องจะมีผลช่วยให้ผลงานออกมาโดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยปกติแล้วตัวหนังสือแบบ Kinetic คือ การออกแบบตัวอักษรให้เหมือนมีการเคลื่อนไหว เพื่อให้ตัวหนังสือดูมีไดนามิก และดึงดูดสายตา รวมถึงสามารถบอกเล่าเรื่องราว และถ่ายทอดความรู้สึกผ่านตัวอักษรได้อีกด้วย
Anti-Design
Anti-Design คือ การออกแบบที่ต่างกันสุดขั้วทั้งเรื่องสีที่ออกไปในโทนสดหรือตัดกัน ขนาดและรูปทรงที่บิดเบี้ยวไปจากความเป็นจริง หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายภาพจำแบบเดิม ๆ เหมือนการออกแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่สมดุล เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่แปลกใหม่นั่นเอง
ในปัจจุบันผู้คนมองหาความแปลกใหม่ที่ฉีกจากกรอบเดิม ๆ เช่นเดียวกับงานดีไซน์ที่ก็ต้องการอะไรที่ดูไม่สมดุล ดีไซน์เลยออกมาเป็นแนวการจัดวางที่ดูยุ่งเหยิง ความไม่สมมาตร และการใช้ลายมือแทนการใช้ตัวหนังสือ หรือรูปทรงเป๊ะ ๆ
Risograph Background
การออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Risograph หรือการพิมพ์หนังสือทำมือในอดีต โดยผลงานจะออกมาแนวงานปรินต์เหมือนงานถ่ายเอกสาร ที่จะมี Grain ในภาพค่อนข้างชัด บางชิ้นก็จะเป็นสีโปร่งแสง หรือสีสะท้อน ด้วยความที่การพิมพ์แบบ Risograph ที่เป็นการพิมพ์สีเป็นเลเยอร์เลยทำให้แต่ละชิ้นงานดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเองค่อนข้างมาก
Y2K
Y2K ย่อมาจากคำว่า ‘Year 2000’ หมายถึงดีไซน์ในช่วงยุค 90 จนถึงช่วงต้นของยุค 2000 นั่นเอง ซึ่งช่วงหลังมานี้จะเห็นได้ชัดว่าผู้คนมีความอินกับศิลปะในช่วงยุคนี้มากขึ้น จึงทำให้เทรนด์ในปีนี้เน้นไปทางสีชมพูพาสเทล ลายตารางหมากรุก และเมทาลิก ที่ทำให้ผลงานถ่ายทอดพลังงานด้านบวก ความสนุก และกำลังใจถึงผู้รับสารได้เป็นอย่างดี
ที่มา: Social Media Today