
ปัจจุบันวงการคอนเทนต์ไม่ได้เผชิญแค่เรื่องการตามเทรนด์ หรือการสร้างภาพจำกับคนดูผ่านช่องทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพียงเท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญกับปัญหาการยืนระยะ ที่ทั้งครีเอเตอร์หน้าใหม่หรือทำมานานต่างก็มียอมแพ้กันไประหว่างทาง ซึ่ง Top 10 เทรนด์ 2026 ที่เป็นบทความพิเศษระหว่าง RAiNMaker x The Secret Sauce Summit 2025 ในวันนี้ จะมาแชร์ให้รู้กันว่าการเปลี่ยนจากครีเอเตอร์สู่ผู้ประกอบการจะต้องอัปเดตเทรนด์แบบไหน เพื่อให้การทำคอนเทนต์ยืนระยะ และเตรียมตัวสู่ 2026 ได้ก่อนใคร
โดย Top 10 ของเทรนด์ในบทความนี้จะไม่ได้มีแค่การประยุกต์ไปสู่การทำคอนเทนต์เท่านั้น แต่ยังสามารถต่อยอดไปถึงการวางกลยุทธ์และวางแผนแนวทางคอนเทนต์ในอนาคตได้ด้วย เพราะเทรนด์เหล่านี้ถูกคัดสรรมาจากการเปลี่ยนไปของโลกและเศรษฐกิจไทย ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นครีเอเตอร์หรือแบรนด์ก็ต้องปรับตัวให้ทัน
ทั้งเรื่องของ AI และเทคโนโลยี, ผู้สูงอายุและสุขภาพ, ตลาด Niche และ Mass ไปจนถึงการรับมือธุรกิจด้วยการสร้างความเชื่อใจท่ามกลางการหลั่งไหลของทุนจีน และความแปรผันของยุคหลังโลกาภิวัฒน์
บทความนี้จึงเปรียบเสมือนประตูที่จะพาทุกคนเริ่มก้าวไปสู่ปี 2026 และพร้อมรับทุกความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นก่อนจะได้ไปจุดไฟ เติมอาวุธ ไปเอาชนะศึกคอนเทนต์และธุรกิจแบบจัดเต็มกันได้ที่งาน The Secret Sauce Summit 2025 กับธีม Unleash the Business Beast!
Bioconvergence

คือ จุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้างของโลกธุรกิจที่เทรนด์ Deep Tech เกิดขึ้นมาจากการหลอมรวมเทคโนโลยีชีวภาพกับดิจิทัล ทำให้มีการนำ AI และงานวิจัยในห้องแล็บมากลั่นเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ในตลาดชีวิตจริงได้ เพราะ AI ไม่ได้อยู่แค่ในโลกคอมพิวเตอร์ แต่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น
นวัตกรรม Bioconvergence
- AlphaFold: แพลตฟอร์ม AI จาก DeepMind ของ Google ที่สามารถทำนายโครงสร้าง 3 มิติของโปรตีนได้เกือบทั้งหมดที่วงการวิทยาศาสตร์รู้จัก นำไปสู่วิวัฒนาการสร้างยาและวัคซีนใหม่ ตลอดจนเกษตรกรรมอัจฉริยะและอาหารแห่งอนาคต
- Deep Tech Commercialization: เปลี่ยนเทคโนโลยีจากห้องทดลองสู่โลกธุรกิจที่ใช้ได้จริง ที่ Deep Tech ไม่ใช่แค่เรื่องของวิทยาศาสตร์แต่เป็นโอกาสทางธุรกิจ ที่นำเทคโนโลยี AI ไปใช้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้
- Deep Tech Playbook = Deep Technology + Expertise + Knowledge ที่เริ่มมาจากการทำความเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งและมีอินไซต์ พร้อมแบบแผนที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีต่อยอดเป็นแกนหลักธุรกิจ
การปรับตัวของครีเอเตอร์และแบรนด์ x Bioconvergence
ครีเอเตอร์และแบรนด์ควรเริ่มศึกษาเทคโนโลยี AI และเริ่มใช้เครื่องมือหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ เก็บอินไซต์ของกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด เพื่อทำความเข้าพฤติกรรมและ Painpoint ที่ต้องนำไปแก้ไขปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะผลลัพธ์ของคอนเทนต์หรือสินค้าที่ลงโปรโมตและจำหน่ายไปแล้ว
Brand Incremental Values

คือ หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจยุคใหม่ เพราะท่ามกลางคู่แข่งมากมายในสนามเดียวกัน ต่อให้ราคาจะแพงกว่าแต่บางครั้งแบรนด์ที่สร้างคุณค่ากับกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าก็ยัคงเป็นแบรนด์ที่ถูกเลือกอยู่ เพราะแบรนด์แข่งกันที่คุณค่ามากกว่าราคา
มูลค่าเพิ่มที่ลูกค้ารู้สึกต่อแบรนด์
- ภาพลักษณ์ที่ซื้อแล้วคุ้มค่า: มูลค่าของแบรนด์ที่ให้ภาพลักษณ์ในการคุ้มค่าเมื่อซื้อ ต่อให้ราคาสูงก็ยังคงรู้สึกผูกพันกับแบรนด์
- การเชื่อมโยงทางอารมณ์: พลังที่ไม่มีในสเปกของสินค้า เพราะแบรนด์สามารถสร้างสินค้าที่มีผลต่อความรู้สึก และการตัดสินใจซื้อได้ด้วยคุณค่าทางอารมณ์ของกลุ่มเป้าหมาย
- การถอดรอยเส้นทางของลูกค้า: การติดตามเส้นทางตั้งแต่กลุ่มเป้าหมายรู้จักกับแบรนด์ เพื่อทำความเข้าใจ Touchpoint จุดที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจเลือกแบรนด์
- สามารถสร้างพื้นที่และวัฒนธรรมให้อยากมีส่วนร่วม: แบรนด์สามารถสร้างพื้นที่และวัฒนธรรมของตัวเอง ให้กลุ่มเป้าหมายอยากมีส่วนกับแบรนด์ ไม่ใช่แค่ซื้อสินค้าแล้ว
การปรับตัวของครีเอเตอร์และแบรนด์ x Brand Incremental Values
ครีเอเตอร์สามารถเปลี่ยนจากการทำคอนเทนต์ มาเชื่อมโยงกับผู้ติดตามให้เกิดคอมมูนิตี้มากขึ้นได้ ด้วยการสร้างวัฒนธรรมและเชื่อมโยงให้มากที่สุด เช่นเดียวกับฝั่งแบรนด์ที่ต้องไม่ใช้เครื่องมือโฆษณาและการโปรโมตแคมเปญเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีพื้นที่ให้สร้างประสบการณ์ร่วมกันกับกลุ่มเป้าหมายด้วย
Gen-Well

คือ เทรนด์ดูแลสุขภาพที่ต้องดีทั้งกายและใจทุกช่วงเวลาชีวิต ที่คนรุ่นใหม่มองหาความสมบูรณ์ครบทุกมิติชีวิตมากกว่าแค่เรื่องสุขภาพ หลังคนรุ่นใหม่ในไทยกว่า 63% ใช้ชีวิตแบบ ‘เดือนชนเดือน’ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก การปรับตัวเรื่อง Gen-Well จึงต้องเชื่อมโยงไปถึงวัฒนธรรมองค์กรและกลยุทธ์ทางธุรกิจด้วย
การปรับตัวแบบ Gen Well
- องค์กรที่มีค่านิยมชัดเจน: คนรุ่นใหม่มักจะมองหา Shared Values ในองค์กรที่มีค่านิยมชัดเจนและมีเป้าหมายการทำธุรกิจ
- มีกระบวนการทำงานที่ใส่ใจ Well-being: การทำงานที่มีบรรยากาศส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี ทำตามชั่วโมงงานและลดความเครียดให้กับองค์กร
- ตลาดที่พร้อมจ่ายเพื่อให้สินค้าและบริการเสริมความสุข: ผู้คนให้ความสนใจและพร้อมใช้เงินไปกับธุรกิจหรือบริการที่ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ
การปรับตัวของครีเอเตอร์และแบรนด์ x Gen-Well
เมื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจกลายเป็นสิ่งสำคัญ ฝั่งครีเอเตอร์ก็สามารถสร้างคอนเทนต์ที่ฮีลใจและให้คุณค่ากับจิตใจของผู้ติดตามได้มากขึ้น ส่วนฝั่งแบรนด์ก็สามารถส่งเสริมคุณค่าทางจิตใจผ่านสินค้าได้เช่นกัน เพียงแค่ต้องหาจุดร่วมและเชื่อมโยงกับความรู้สึกของผู้คนให้ได้
Market to Target Tourism

คือ การตลาดท่องเที่ยวที่สร้างประสบการณ์แบบเจาะจงกับกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการทำความเข้าใจแบบ ‘Niche’ เพื่อต่อยอดสู่โอกาสในการ ‘Mass’ ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวที่ผู้คนไม่ได้แค่มาพักผ่อนแต่อยากมาพักใจและใช้เวลาของตัวเองให้คุ้มค่า ประสบการณ์ที่ได้รับจึงต้องพิเศษและไม่ใช่แค่การหว่านแห
วิธีเปลี่ยนโลกทัศน์ตลาดท่องเที่ยว
- พร้อมสร้างประสบการณ์เฉพาะกลุ่ม: นักท่องเที่ยวเริ่มมีจุดประสงค์และเหตุผลในการเดินทางมากขึ้น การที่แบรนด์รู้ทันอินไซต์และเทรนด์ของนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มจะช่วยให้สร้างประสบการณ์ได้ตรงจุดมากกว่า
- เสริมเรื่องสุขภาพเพื่อการท่องเที่ยวระยะยาว: เริ่มมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทำให้การเที่ยวต้องมีความผ่อนคลายมากขึ้น
- ทำความเข้าใจอินไซต์นักท่องเที่ยว: การทำคอนเทนต์หรือธุรกิจท่องเที่ยวจะต้องรู้อินไซต์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยวว่าเป็นใคร และมาทำอะไรบ้าง แล้วตอบโจทย์ให้ได้
การปรับตัวของครีเอเตอร์และแบรนด์ x Market to Target Tourism
แม้เรื่องการท่องเที่ยวจะดูไกลตัวไปจากครีเอเตอร์ แต่หากครีเอเตอร์ใช้โอกาสนี้ในการทำคอนเทนต์สายท่องเที่ยวแล้วใส่เรื่องการสร้างประสบการณ์และสุขภาพไปด้วย ก็จะช่วยให้นักท่องเที่ยวมาไทยหรือรู้จักกับช่องของตัวเองได้มากขึ้น เช่นเดียวกับแบรนด์ที่จะเป็นโรดแมปที่พักต่อไปให้นักท่องเที่ยวเลือกมาพักผ่อนและพักใจได้ในเวลาเดียวกัน
Materiality-Driven Action

คือ การเลือกทำสิ่งที่มีความหมายยั่งยืนกับธุรกิจ หรือเปลี่ยน ESG ให้กลายเป็นการขับเคลื่อนธุรกิจ เพราะการเป็นผู้ประกอบการในโลกธุรกิจจะต้องรับแรงกดดันทั้งจากฝั่งลูกค้าและพาร์ทเนอร์อยู่ตลอดเวลา การมีกลยุทธ์เพื่อมุ่งไปถึงจุดสำคัญของธุรกิจก็จะช่วยให้เป้าหมายสำเร็จได้มากขึ้น
เปลี่ยนมุมมองสู่ Sustainability
- วางกลยุทธ์ธุรกิจให้ถูกจุด: เริ่มจากการตั้งคำถามว่าอะไรสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ แล้วโฟกัสจนสำเร็จ
- ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อถือ: การทำธุรกิจให้ยั่งยืนต้องมาจากข้อมูล เพราะข้อมูลจะช่วยเปิดประตูธุรกิจสู่โลกใหม่
- รู้ว่าเรื่องไหนสำคัญกับธุรกิจ: เพราะธุรกิจไม่จำเป็นต้องตามเทรนด์หรือทำทุกเรื่อง แต่เลือกเรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจให้มากที่สุดมาแสดง Action ต่อไป
การปรับตัวของครีเอเตอร์และแบรนด์ x Materiality-Driven Action
เทรนด์การทำธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องวางกลยุทธ์มาจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ และโฟกัสในการทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดความยั่งยืน เหมือนกับการที่ครีเอเตอร์และแบรนด์ก็ต้องเพิ่มการวางกลยุทธ์การทำคอนเทนต์หรือการตลาดสร้างแบรนด์ดิงให้อยู่ในใจกลุ่มเป้าหมาย และยกระดับสู่ความต้องการของตลาดโลกได้
Trust

คือ การสร้างความเชื่อใจกับทุกภาคส่วนในธุรกิจ เสมือนแต้มต่อของธุรกิจที่เป็นมากกว่าความไว้วางใจ เพราะในยุคที่ข้อมูลข่าวสารและเทรนด์ต่างมาไวและไปไว หรือไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากแค่ไหนโมเดลการทำธุรกิจก็ขาดความไว้วางใจไม่ได้
การสร้าง Trust ที่ยั่งยืน
- มีธรรมาภิบาลและความโปร่งใส: ข้อมูลที่ถูกสื่อสารหรือเผยแพร่ออกไปจะต้องมีการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาและทำให้เป็นธรรมาภิบาลในวงการร่วมกัน
- พิสูจน์ตัวเองจนเกิดความน่าเชื่อถือ: แทนที่จะลงไปแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว การพิสูจน์ว่าเป็นแบรนด์ที่ดีมีคุณภาพจะสร้างความเชื่อใจในระยะยาวได้มากกว่า
- รู้จักเปลี่ยนคู่แข่งให้เป็นคู่ค้า: บางครั้งคู่แข่งก็สามารถกลายเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจได้ หากมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่คุ้มค่าและเอื้อต่อกันและกัน
การปรับตัวของครีเอเตอร์และแบรนด์ x Trust
ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์เปรียบเสมือนผู้สร้างความเชื่อใจบทบาทใหม่ในโลกออนไลน์ ที่ผู้คนให้ความไว้วางใจมากกว่าแบรนด์ แต่ในขณะเดียวกันแบรนด์ที่เรียนรู้จะสื่อสารแบบครีเอเตอร์ก็เริ่มสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์กลับมาได้เช่นกัน ฉะนั้นการรักษาความไว้วางใจกับกลุ่มเป้าหมาย เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา และมีความเป็นตัวเองอยู่เสมอจึงจะทำให้อยู่รอด
Post-Globalization

คือ สัญญาณของวิกฤตการณ์ที่ต้องปรับตัวในโลกยุคหลังโลกาภิวัตน์ที่กระทบทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นยุคที่เต็มไปด้วยการเผชิญหน้าทั้งกับเศรษฐกิจและสงครามการค้า ทำให้แต่ละประเทศเริ่มแยกออกมาพึ่งพาตัวเองแบบโดดเดี่ยว และรู้จักประเมินความเสี่ยงตามสถานการณ์มากขึ้น
วิธีเดินเกิมยุคหลังโลกาภิวัตน์
- คิดแบบ Global เดินหน้าแบบ Local: การสร้างแบรนด์ที่ดีต้องมีคุณภาพระดับสากล แต่ยังคงความเป็นท้องถิ่นที่ผนวกความคิดสร้างสรรค์ไว้
- อ่านโลกให้ออกและปรับตัวให้ทัน: กล้าที่จะมองหาโอกาสในความเสี่ยงเสมอ พร้อมยืดหยุ่นตามสถานการณ์ให้ได้
- เริ่มลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัล: สินค้าและบริการจะมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อกระจายเข้าสู่แพลตฟอร์มที่คนในประเทศหรือคนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้
การปรับตัวของครีเอเตอร์และแบรนด์ x Post-Globalization
ในมุมของครีเอเตอร์และแบรนด์ในยุคหลังโลกาภิวัตน์จะต้องตามเทรนด์และพร้อมปรับตัวให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์รอบด้านอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ ความสนใจของผู้คน หรืออัลกอริทึมของแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งสร้างรายได้ก็ตาม เพราะเป็นคีย์สำคัญที่จะทำให้คอนเทนต์หรือธุรกิจไปรอดในระยะยาว
China New Normal

คือ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ไทยต้องคว้าโอกาสจากจีนเพราะมีการไหลเข้ามาของทุนจีนสู่ทุนไทย ที่ไม่ว่าจะมีการตั้งคำถามว่าทุนจีนเป็นมิตรหรือศัตรู แต่สุดท้ายเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันให้ได้ โดยต้องพร้อมรับมือและต่อยอดสู่โอกาสจากผู้มาเยือนใหม่ ๆ ให้เป็น
โอกาสของธุรกิจไทยเมื่อจีนเข้ามา
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน: เริ่มทำความเข้าใจการเข้ามาและความต้องการของผู้มาเยือน และสร้างความสัมพันธ์ที่ต่อยอดโอกาสในโลกธุรกิจได้
- ฉวยโอกาสดึงทุนจีนที่ดีเข้ามา: เมื่อก่อนที่ทุนญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาในไทย ก็เหมือนกับตอนนี้ที่ทุนจีนเริ่มเข้ามา การมองหาโอกาสได้ลงทุนหรือทำให้เห็นว่ามีการปรับตัวเข้าหากันได้ จะช่วยให้ธุรกิจไปรอดอย่างมั่นคง
- ประเมินว่าเป็นจีนขาว หรือจีนเทา: การประเมินนี้ต้องใช้จิตวิญญาณแห่งผู้ประกอบการ เปิดใจรับความเปลี่ยนแปลงไม่ว่าผลกระทบแบบไหนจะเกิดขึ้นกับธุรกิจ
การปรับตัวของครีเอเตอร์และแบรนด์ x China New Normal
แม้เรื่องของทุนจีนอาจจะดูเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจและสร้างแบรนด์ดิงมากกว่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเข้ามาของทุนจีน และกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่เป็นคนจีนก็สร้างโอกาสอะไรหลายอย่างให้กับวงการคอนเทนต์และครีเอเตอร์ไทยได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นการปรับตัวหรือลองอะไรใหม่ ๆ กับตลาดนี้ก็เป็นโอกาสสำคัญในการเติบโต
Longevity Economy

คือ ‘เศรษฐกิจอายุวัฒน์’ เพื่อยกระดับคุณภาพผู้สูงอายุในโลกยุคสังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ ที่เรื่อง Wellness กลายเป็นเรื่องของผู้คนทุกวัย และมาพร้อมกับการเติบโตของเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงวัยหรือ ‘AgeTech’ เครื่องมือสำคัญในการตอบโจทย์ตลาดผู้สูงอายุและผู้ดูแลสูงอายุ
การปรับตัวสู่โลกเทคโนโลยีผู้สูงวัย
- ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สินค้าและบริการสำหรับผู้สูงอายุ: เศรษฐกิจอายุวัฒน์ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุแต่เป็นเศรษฐกิจที่จะเริ่มเต็มไปด้วยกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง สินค้าและบริการจึงจะต้องดีและมีคุณภาพที่สุด
- ครอบคลุมธุรกิจที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์: กลุ่มคนสูงอายุมีเวลาว่างในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพเยอะ การทำธุรกิจให้ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้จึงต้องเชทำความเข้าใจไลฟ์สไตล์ที่หลายมิติ
- ตอบโจทย์ผู้สูงอายุอายุยืนยาวและกำลังซื้อสูง: ทั้งสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ จะต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตในระยะยาวมากขึ้น ทั้งในด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ
การปรับตัวของครีเอเตอร์และแบรนด์ x Longevity Economy
ครีเอเตอร์หรือแบรนด์ที่ต้องการยืนระยะ ก็สามารถเบนสายมาทำคอนเทนต์หรือสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงอายุกำลังซื้อสูงได้เช่นกัน เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Longevity Economy และ AgeTech ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นสังคมที่กำลังก่อตัวขึ้นไม่ต่างจากการตลาด Gen Z ฉะนั้นจึงควรสร้างความไว้วางใจเพื่อเปลี่ยนให้เป็นโอกาสทางธุรกิจแบบไร้ขีดจำกัดได้
AI Agent

คือ ตัวช่วยตัดสินใจและดำเนินตามเป้าหมายเหมือนพนักงานมีประสบการณ์ เสมือนพนักงานใหม่ที่ทำให้องค์กรโตแบบก้าวกระโดด เพราะปัจจุบันเทคโนโลยี AI มีความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์และประมวลผลได้แม่นยำมากขึ้น พร้อมกำหนดเป้าหมายให้ทำได้เพียงแค่มีข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน
โอกาสใหม่จาก AI Agent
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: AI สามารถเข้ามาช่วยนวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น หรืองานบริการลูกค้าที่เป็นรูทีนได้ เพื่อช่วยลดงานเล็กน้อยที่ไม่จำเป็นในแต่ละวัน
- การลดต้นทุนให้พนักงานมีเวลาสร้างสรรค์: AI ยุคนี้กลายเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันผู้คนมากขึ้น และช่วยประหยัดเวลาพร้อมลดต้นทุนให้ผู้คนได้ใช้เวลากับสิ่งสำคัญในการทำงานได้
- การสร้างนวัตกรรมค้นหาอินไซต์ใหม่: AI Agent สามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) เพื่อค้นหาอินไซต์ใหม่ ๆ นำไปพัฒนาแบรนด์ได้
การปรับตัวของครีเอเตอร์และแบรนด์ x AI Agent
AI Agent ไม่ได้จะเข้ามาแย่งงาน แต่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยและเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานให้เร็วและง่ายขึ้น ทั้งในด้านคอนเทนต์ของครีเอเตอร์และการทำแคมเปญรวมถึงวิเคราะห์ผระสิทธิภาพหลังบ้านของแบรนด์ได้ สิ่งที่ครีเอเตอร์และแบรนด์ต้องทำต่อไปก็คือการตามหาเครื่องมือ หรือระบบ Workflow ที่ใช่ที่สุดสำหรับการใช้ AI Agent
The Secret Sauce Summit 2025

งาน The Secret Sauce Summit 2025 กลับมาอีกครั้งกับธีม Unleash the Business Beast เวทีนี้จะจุดไฟ เติมอาวุธ พาคุณชนะศึกธุรกิจในยุคผันผวน และ Business festival อัดแน่นกิจกรรมตลอด 2 วันเต็ม!
🎤 MAIN STAGE
ยกทัพปีศาจผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ รวมคนระดับแถวหน้าของไทยที่กล้าคิด กล้าเปลี่ยน และสร้างสิ่งใหม่ แชร์กลยุทธ์ฝ่าวิกฤต พร้อมอินไซต์ลึกจากประสบการณ์จริง สกัด “The Secret Sauce” ที่ทำให้นำเกมในยุคที่มีมรสุมรอบด้าน กับเทรนด์ธุรกิจปี 2026 ที่ไม่ควรพลาด!
🧠 EXPERTISE STAGE
ต่อยอดเวทีฮิตจากปีที่แล้วที่คราวนี้จัดใหญ่กว่าเดิม! กับเวที MBA ฉบับย่อยง่าย ติดอาวุธผู้ประกอบการตัวจริง เรียนรู้ Skill สำคัญแห่งยุค เช่น AI, กลยุทธ์, การเงิน, การตลาด, Sustainability จากผู้เชี่ยวชาญที่พาทำจริง! ลงสนามจริง!
🚀 YOUNG ENTREPRENEUR STAGE
เวทีสำหรับปีศาจผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เจาะเบื้องหลังแบรนด์ที่เปลี่ยนเทรนด์ตลาด เรียนรู้วิธีคิดนอกกรอบ พูดคุยแบบใกล้ชิดในบรรยากาศเป็นกันเอง เปิดโอกาสให้ถาม-ตอบสด และได้เชื่อมต่อกับคอมมูนิตี้ของคนกล้าลุย! กล้าต่าง! กล้าเปลี่ยน!
🚀 INVESTMENT STAGE
เวทีรวมตัวนักลงทุนระดับหัวกะทิและหน่วยงานสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ อัปเดตเทรนด์การลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมเปิดเผยแนวคิดและกลยุทธ์การตัดสินใจลงทุน รวมถึงสิ่งที่พวกเขากำลังมองหาในผู้ประกอบการรุ่นใหม่
🏙 EXHIBITION & NETWORKING LOUNGE
รวมเครื่องมือและโซลูชันธุรกิจครบวงจรจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมเสิร์ฟคอนเน็กชันและพาร์ทเนอร์ใหม่ ๆ เพิ่มโอกาสในการเจอคนที่ใช่และแลกเปลี่ยนนามบัตรแบบที่หาได้แค่ที่งานนี้
👩⚕️ SME CLINIC
คลินิกให้คำปรึกษาธุรกิจแบบตัวต่อตัวจากผู้เชี่ยวชาญ ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาแบบเจาะลึก แนะนำแนวทางที่ใช่ได้คำตอบไปใช้จริง
🎉 BUSINESS NETWORKING PARTY
ปาร์ตี้ส่งท้ายสุดพิเศษ! รวมตัวผู้ประกอบการ นักลงทุน และพาร์ทเนอร์จากหลายภาคส่วน มาชนแก้ว เปิดบทสนทนาในบรรยากาศคึกคักและเป็นกันเอง เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนไอเดีย เชื่อมโยงคอมมูนิตี้ที่มีเป้าหมายเดียวกัน เพื่อต่อยอดสู่ความร่วมมือและโอกาสใหม่ ๆ หลังจบงาน
🎯 ใครควรมางานนี้?
👤 ผู้ประกอบการและนักธุรกิจที่ต้องการเร่งสปีดการเติบโต
👤 ผู้บริหารทุกระดับที่มีบทบาทขับเคลื่อนองค์กร
👤 คนทำงานรุ่นใหม่ และนิสิต-นักศึกษาที่สนใจธุรกิจและความเป็นผู้นำ
ปลุกปีศาจในตัวคุณ แล้วทะยานสู่โลกธุรกิจใหม่ไปพร้อมกัน | May the Best Monster Win.
แล้วเจอกัน!
🗓️ 16-17 September 2025
📍UOB LIVE 6th Floor, EMSPHERE
เตรียมพบกับ HIGHLIGHT SESSIONS และราคาสุดพิเศษ!

Highlight Sessions
- ตำรานักล่าโอกาส ในยุคเกมโลกปั่นป่วน ฉบับ WHA Group โดย จรีพร จารุกรสกุล WHA Group
- กลยุทธ์ปั้นธุรกิจธรรมดาให้เป็นแบรนด์ที่ลอกเลียนแบบไม่ได้ โดย ศุภลักษณ์ อัมพุช Tha Mall Group
- กลยุทธ์เถ้าแก่น้อย อาณาจักรสาหร่าย บุกตลาดโลก โดย อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ เถ้าแก่น้อย
- ถอดรหัส Thai Coco พลิกเกษตรไทยสู่ผู้นำ OEM โลก โดย ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว Thai Coconut
- Her Hyness แบรนด์สกินแคร์พันล้านในสมรภูมิเดือด โดย กัญญฉัชฌ์ เลิศธนไพบูลย์
- โอกาสธุรกิจบนคลื่นสุขภาพกับกลยุทธ์ชนะ 30 ปี ชีวาศรม โดย กฤป โรจนเสถียร ชีวาศรม และวินย์ โรจนเสถียร ชีวาศรม
- โตแบบปีศาจ กลยุทธ์รบครั้งใหม่ของ Flash Group โดย คมสันต์ ลี Flash Group
- ถอดสูตรลับฉบับฟาโรส ปั้นแบรนด์อย่างไรให้ลูกค้ารักจริง – อยู่ยาว โดย ณัฏฐ์ กลิ่นมาลี FAROSE Studio
- เทรนด์กลยุทธ์ธุรกิจปี 2026 โดย ดร.ธนัย ชรินทร์สาร ที่ปรึกษาและวิทยากรด้านกลยุทธ์
- เทรนด์การตลาดดิจิทัลปี 2026 โดย อรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ Adaptor Digital Group
- เทรนด์ AI Agent ปี 2026 โดย ดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ ViaLink
- เทรนด์เทคโนโลยีปี 2026 โดย Gobind Rattivarakorn Deloitte
- คู่มือผู้ประกอบการปีศาจ ปี 2026 โดย นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ THE STANDARD
พิเศษ! ซื้อบัตรพร้อมโค้ดส่วนลดกับ RAiNMaker
- Exclusive Discount Code: 30%
- Code: PTNBEAST
#TheSecretSauce #TheSecretSauceSummit2025 #RAiNMaker