Disney จะยุติแผนทำ Metaverse ทั้งหมดในอีกไม่กี่สัปดาห์ รวมถึงยุติสัญญากับพนักงานในฝ่าย Metaverse ทั้ง 50 คน เพื่อประหยัดต้นทุน ยกเว้น Mike White หัวหน้าฝ่าย ผู้เป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญของกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ Disney ต้องล้มเลิกโปรเจกต์ Metaverse ไป เนื่องจากสภาวะตลาดที่ไม่เอื้อ ทำให้ต้องลดค่าใช้จ่าย และปัจจัยอื่น ๆ อย่างจำนวนคู่แข่งในตลาดสตรีมมิงที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้าง โดยวางแผนปลดพนักงานถึง 7,000 คนภายในระยะเวลา 2 เดือน
ทีม Metaverse ของ Disney ถูกตั้งขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 เพื่อหาทางให้คนดูได้มีปฏิสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทมากขึ้น เนื่องจากตอนนั้น Robert Iger CEO Disney ได้มองว่า Metaverse เป็นอนาคตของ Storytelling
ก่อนหน้านี้ Bob Chapek CEO คนก่อนก็เน้นพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีเพื่อดึงดูดคนเข้ามาใน The Walt Disney ต่อมาในปี 2021 Disney ได้จดสิทธิบัตรการจำลองโลกเสมือนจริง ที่ออกแบบสวนสนุก Disney World ให้มี AR เข้ามาช่วยเพิ่มสีสันให้ผู้เข้าชม เพื่อเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือน ตามอุดมการณ์ของ Bob ณ ตอนนั้น
แต่ช่วงหลังมานี้ บริษัทคริปโตหลายแห่งหยุดชะงัก รวมถึง NFT ก็ไม่ได้เติบโตอย่างที่ใครหลายคนมองภาพไว้ตอนแรก เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ Disney ที่จะยุติแพลน Metaverse แต่หลายบริษัทเองก็กำลังพิจารณาชะลอแพลน Web3 อยู่ อย่าง Snapchat เองก็ประกาศเลิกจ้างทีมงาน Web3 และ Meta เองก็หันมาโฟกัสที่วิดีโอมากกว่า Metaverse อย่างที่เคยกล่าวไว้เช่นกัน นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าจับตามองว่า หลายบริษัทไม่ได้ทุ่มให้กับ Metaverse เท่าปีก่อน และมีการปรับโครงสร้างเพื่อประหยัดต้นทุนกันมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
ที่มา: COINGEEK
