
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ChatGPT ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ตัวช่วยด้านการทำงาน เป็นเพื่อนคู่คิดในเรื่องต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งทำหน้าที่เป็น Search Engine สำหรับคนรุ่นใหม่ จึงทำให้ ChatGPT กำลังพัฒนาโมเดลให้มีความฉลาดมากขึ้นทุกวัน เพื่อให้สามารถจดจำและตอบสนองกับอารมณ์ของมนุษย์ได้
ล่าสุด OpenAI ได้ประกาศแผนพัฒนา ChatGPT ที่มุ่งสร้างประสบการณ์การใช้งานให้มีประโยชน์และปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต ภาวะความเครียด และกลุ่มวัยรุ่น ผ่าน 4 แผนหลักในการสนับสนุนผู้ใช้งานดังนี้
- ขยายการช่วยเหลือไปยังคนที่อยู่ในภาวะวิกฤต
- ทำให้การเข้าถึงบริการฉุกเฉินและผู้เชี่ยวชาญง่ายมากขึ้น
- เปิดการใช้งานให้เชื่อมต่อคนที่เชื่อถือและไว้ใจได้
- เสริมการป้องกันการใช้งานสำหรับวัยรุ่น
โดย OpenAI ได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญผ่านการตั้ง Expert Council on Well-Being and AI ที่มีทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเยาวชน สุขภาพจิต และปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ รวมถึงทำงานร่วมกับ Global Physician Network เครือข่ายแพทย์กว่า 250 คนจาก 60 ประเทศ ซึ่งมีทั้งจิตแพทย์ กุมารแพทย์ และแพทย์ทั่วไป มากกว่า 90 คน เพื่อฝึกโมเดลให้ตอบสนองในบริบทที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ยังพัฒนา Reasoning Models อย่าง GPT-5-thinking และ o3 ที่ออกแบบมาให้ใช้เวลาคิด วิเคราะห์ และตีความมากขึ้นก่อนตอบ พร้อมกับเปิดตัว Real-time Router ที่สามารถเลือกสลับโมเดลตามบริบทการสนทนา และหากตรวบพบความทุกข์รุนแรงระบบจะส่งต่อไปยัง Reasoning Model อัตโนมัติ
ส่วนอีกหนึ่งเรื่องที่ OpenAI ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ คือการปกป้องความปลอดภัยสำหรับวัยรุ่น เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มวัยรุ่นมีการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวันเป็นหลักเมื่อเทียบกับผู้ใช้กลุ่มอื่น จึงเป็นสาเหตุของการเปิดตัวฟีเจอร์ Parental Controls เพิ่มความสามารถให้ผู้ปกครองสามารถเข้าถึงการใช้งานด้านต่าง ๆ เพื่อดูแลลูกหลานของตัวเอง เช่น
- ผู้ปกครองสามารถเชื่อมต่อแอ็กเคานต์ของวัยรุ่นี่มีอายุ 13 ปีขึ้นไปได้ผ่านอีเมล
- ควบคุมการตอบสนองของ ChatGPT ให้เหมาะสมกับวัย
- ระงับการใช้งานบางฟีเจอร์ได้ เช่น Memory และ Chat History
- รับการแจ้งเตือนเมื่อระบบตรวจพบว่าวัยรุ่ยกำลังเผชิญสภาวะทุกข์รุนแรง ซึ่งระบบนี้อยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยชี้แนะในการช่วยเหลือทั้งผู้ปกครองและวัยรุ่น
ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะเสริมฟีเจอร์เดิมที่มีอยู่แล้วอย่างการแจ้งเตือนให้พักเมื่อมีการใช้งานนานเกินไป โดยฟีเจอร์ทั้งหมดนี้จะเปิดให้ใช้งานแบบสมบูรณ์ภายในเดือนสิงหาคม
OpenAI ย้ำว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะองค์กรยังมีการพัฒนาด้านอื่น ๆ ที่จะทยอยประกาศในอีก 120 วันข้างหน้า โดยเป้าหมายสูงสุดคือการทำให้ ChatGPT เป็นเครื่องมือที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อทุกคนมากที่สุด
ที่มา: OpenAI