เรื่องราวของ Meme สุดฮาบนโลกอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้หลายคนหลงรัก

Meme (มีม) บนโลกอินเตอร์เน็ต เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในการแสดงออกอารมณ์ตามสถานการณ์ต่างๆ โดยทั่วไปแล้วมักจะใช้ในการแสดงออกเชิงตลกขบขันบนคอนเทนต์ที่ไม่ได้เป็นทางการมากนัก

ผู้เขียนเองไปเจออีกหนึ่งนิยามของ Meme ใน Wikipedia ที่น่าสนใจ เค้าว่าไว้แบบนี้

มีม (meme) เป็นรูปแบบของ ความคิดทางวัฒนธรรม สัญลักษณ์ หรือการปฏิบัติ ที่สามารถส่งผ่านจากจิตใจคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง ผ่านการเขียน การพูด ท่าทาง พิธีกรรม ภาพล้อเลียน และมีคำศัพท์ต่างๆในภาพที่มีความหมายเชิงตลก หรือปรากฏการณ์ลอกเลียนแบบอื่น ๆ

โดย Meme แต่ละอันจะถูกจดจำด้วยการเป็นสัญลักษณ์ของอารมณ์หรือเรื่องราวบางอย่าง ส่วนใหญ่ Internet Meme จึงถูกนำมาใช้ทำคอนเทนต์ที่ต้องการใช้ภาพสื่อถึงอารมณ์บางอย่างที่มองเห็นแล้วเข้าใจในทันที ถ้าคุณสามารถใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสมจะทำให้คอนเทนต์น่าสนใจมากขึ้น

ในบทความนี้จะพาพวกเราพักจากเนื้อหาหนักๆ กันสักครู่ แล้วมาดูประวัติของ Meme สนุกๆ ที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ หรือที่เราเคยนำมาใช้บน Social Media กัน

Gavin Thomas

เปิดด้วย Meme ที่ผมชอบที่สุด น้องเกวิน เด็กชายผู้ที่เหมือนจะเกิดมาเพื่อเป็น Meme ที่แท้ทรู Gavin Thomas เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2010 ปัจจุบันก็อายุ 8 ขวบ เกิดและโตที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

เริ่มต้นจากการที่คลิปวิดีโอน่ารักๆ ของน้องบนแอป Vine ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ซึ่งตอนนั้นน้องอายุเพียง 2 ขวบเท่านั้น ซึ่งอันที่พีคสุดๆ คือคลิปของน้องเมื่อปี 2014 ที่มีกิ้งก่าอยู่บนหัวของน้อง ซึ่งแสดงออกของอารมณ์ทางสีหน้าได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู จนมีผู้ชมคลิปมากกว่า 30 ล้านครั้ง

และหลังจากในตอนนั้นเองที่เราเริ่มได้เห็นภาพของเกวินถูก capture จากคลิปนำมาใส่คำพูดน่ารักๆ ด้วยความที่สีหน้าของน้องแสดงอารมณ์ออกมาได้จัด ดูจริงจัง แต่ก็ยังคงความน่ารักตามสไตล์เด็กผู้ชาย จึงทำให้เป็นที่เอ็นดูของชาว Social

เรียกว่าทุกภาพของน้องดูฮาจนนำมาใช้เป็น Meme ได้ทุกภาพเลยจริงๆ

สามารถติดตามน้องได้ทาง : @gavinthomas และ facebook.com/GavinThomasFB/

Grumpy Cat

Grumpy Cat หรือ แมวหน้าบึ้ง เป็นน้องแมวที่เกิดมาหน้าบึ้งตึง ชื่อจริงๆ ของมันคือ Tardar Sauce (ทาร์ดาร์ ซอส) เป็นแมวที่เกิดมาพร้อมกับฟันล่างที่ยื่นคร่อมฟันด้านบน ทำให้ปากของมันดูเหมือนว่าทำหน้าบึ้งอยู่ตลอดเวลา (คุณลองเอาฟันล่างยื่นมาข้างหน้าดูสิ คนก็เป็น)

ทาสของแมวตัวนี้ชื่อคุณ Tabatha Bundesen ซึ่งเค้าเริ่มโพสต์รูปแมวออกสื่อบนโลก Social ช่วงประมาณปี 2012 และด้วยการแสดงออกถึงความบึ้งตึงและความน่ารักน่าเอ็นดู ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของหลายคน

ชาวเน็ตเริ่มนำหน้าอันบึ้งตึงของมันมาใส่ข้อความเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการแสดงออกในสถานการณ์ต่างๆ

จนถึงตอนนี้เจ้าแมว Grumpy Cat มีผู้ติดตามเกือบสิบล้านคน กลายเป็นพรีเซนเตอร์ถ่ายโฆษณาให้กับหลายแบรนด์ มีหนังสั้นเป็นของตัวเองชื่อ Grumpy Cat’s Worst Christmas Ever เรียกว่าตอนนี้เจ้าของรวยอู้ฟู่ไปเป็นที่เรียบร้อย

สามารถติดตามแมวหน้าบึ้งได้ทาง :
facebook.com/TheOfficialGrumpyCat และ @RealGrumpyCat

ทำไมเรายังไม่วาร์ป (Star Trek)

Meme นี้ส่วนใหญ่เราจะใช้กับเหตุการณ์ที่ออกแนว 18+ มักจะเป็นใต้คอมเมนต์ของโพสต์ที่วาบหวิว วาร์ปที่ว่าหมายถึงการบอกรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังพูดถึงกันอยู่ ส่วนมากมักจะอยู่ในรูปแบบของลิงก์เกี่ยวกับสิ่งนั้นหรือบุคคลนั้น เพื่อพาเราวาร์ปไปดูสิ่งนั้นเพิ่มเติมนั่นเอง (รู้ยังทำไม 18+)

“ทำไมเรายังไม่วาร์ป” เป็นประโยคจากภาพยนตร์เรื่อง Star Trek เหตุการณ์ในภาพคือตอนที่ยานมีปัญหาไม่สามารถเดินทางด้วยความเร็วแสงหรือวาร์ปได้กัปตันเกิดสงสัยพร้อมกับตะโกนถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ทำไมเรายังไม่วาร์ป”

ฉากในภาพยนตร์ :

Hotline Bling

Meme นี้กำลังเป็นที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เป็นการเปรียบเทียบเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ในลักษณะล้อเลียน ประมาณว่า แบบนี้ไม่ดี (ด้านบน) แบบนี้สิดีกว่า (ด้านล่าง)

ภาพเหตุการณ์นี้มาจาก MV เพลง Hotline Bling ของวง Drake

Zoe Roth

Zoe Roth (โซอี้ โรธ) หรือชื่อที่ชาวเน็ตตั้งให้คือ Disaster Girl เด็กหญิงบ้านไฟไหม้ในตำนาน โดย Meme นี้ใช้ในบริบทที่แสดงออกถึงความสะใจ หรือประมาณว่าการแก้แค้นในแบบจริงจัง

ในภาพเราจะเห็นบ้านที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ พร้อมกับ Zoe ที่ยืนอยู่ด้านหน้า พร้อมกับสีหน้ายิ้มกรุ้มกริ่ม สะใจ ราวกับว่าเธอเป็นคนจุดไฟอย่างนั้นแหละ

Disaster Girl เป็นอีก Meme หนึ่งที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญในปี 2004 ที่ตอนนี้ Zoe อายุ 4 ขวบ ตอนนั้นหน้าบ้านของ Zoe เกิดเหตุเพลิงไหม้ คุณพ่อคุณแม่และน้องก็ออกจากบ้านไปดูพร้อมกัน โดยที่ Dave Roth คุณพ่อของน้อง ได้หยิบกล้องดิจิตอลที่เพิ่งซื้อมาใหม่มาติดตัวไปด้วย

เหตุการณ์เพลิงไหม้ก็ทั่วไป มีรถดับเพลิง มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง คนออกมามุงกันเต็มถนน คุณพ่อก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย วันนั้นมีภาพที่ถ่ายมาประมาณ 30 กว่าภาพ

จากนั้นคุณพ่อก็อัปโหลดภาพขึ้นไปที่เว็บไซต์ Zooomr โดยไม่ได้คิดอะไรมาก นอกจากนี้ พ่อของเธอยังส่งภาพดังกล่าวเข้าประกวดงานถ่ายภาพของนิตยสาร JPG แถมได้รางวัลซะด้วย

ฝากทิ้งท้าย

ด้านบนเป็นประวัติและตัวอย่างของการใช้ Meme ในเชิงสร้างสรรค์ เป็นสีสันบนโลก Social ที่ส่วนมากสร้างชื่อเสียงและเงินทองให้กับเจ้าของภาพไม่น้อย กลายเป็นชีวิตพลิกผันเลยทีเดียว

แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งก็มีเรื่องดราม่าที่บางคนใช้ Meme เป็นสัญลักษณ์ในการเหยียดชนชาติ สีผิว และเรื่องการเมืองต่างๆ ซึ่งส่งผลด้านลบอย่างมากบนอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงการนำภาพหลุดหรือเรื่องราวบางอย่างที่บุคคลในภาพไม่ได้ยินดีให้นำไปใช้ ไปทำเป็น Meme ที่ใช้ล้อเลียนสิ่งต่างๆ จนกลายเป็นการ Cyber Bully ที่ทำร้ายจิตใจบุคคลในภาพอย่างรุนแรงก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเช่นกัน

การใช้ Meme ก็คล้ายกับการยืมคาแรกเตอร์ของสิ่งหนึ่งมาเป็นส่วนผสมในการทำคอนเทนต์ จึงต้องคำนึงถึงความเหมาะสมทุกครั้งก่อนจะนำมาใช้

ที่มา :