
หลังจากเริ่มมีแนวโน้มว่า TikTok จะสามารถดำเนินกิจการต่อในสหรัฐฯ ได้ แพลตฟอร์มก็เริ่มเดินหน้าผลักดันความเชื่อมั่นให้ครีเอเตอร์ในอเมริกาเหนือและแคนาดา โดยการเพิ่มส่วนแบ่งรายได้จากระบบ Subscription สูงสุด 90%
เดิมทีครีเอเตอร์ในภูมิภาคอื่น ๆ จะได้รับส่วนแบ่งรายได้สูงสุดจากระบบ Subscription เพียง 70% เท่านั้น ซึ่งคิดจากส่วนแบ่งรายได้พื้นฐาน 50% ของรายได้สุทธิจากการสมัครสมาชิก และโบนัสอีก 20% ตามผลงานของครีเอเตอร์
ในทางกลับกันครีเอเตอร์ในอเมริกาเหนือและแคนาดาจะได้ส่วนแบ่งรายได้พื้นฐานใหม่เป็น 70% ทันทีหลังหักค่าธรรมเนียม App Store และสามารถทำโบนัสเพิ่มอีก 20% เท่ากับครีเอเตอร์จะมีโอกาสสร้างรายได้สูงสุด 90% ของรายได้จาก Subscription นอกจากนี้ TikTok ยังมีการตั้งภารกิจเพื่อให้ครีเอเตอร์ปลดล็อกโบนัสเพิ่มเติม เพื่อสร้างรายได้จากระบบ Subscription โดยทั้งหมดนี้มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป
ซึ่งการปรับสัดส่วนรายได้ในครั้งนี้ก็เพื่อให้ครีเอเตอร์มั่นใจว่ายังสามารถลงทุนสร้างฐานผู้ติดตามและรายได้บน TikTok โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการแบนแพลตฟอร์ม อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกในระบบ Subscription มากขึ้น และสร้างคอมมูนิตี้ที่มั่นคงในระยะยาวอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ TikTok เปิดตัวระบบ Subscription สำหรับครีเอเตอร์สาย Live ครั้งแรกในปี 2022 และค่อย ๆ ขยายสิทธิ์ให้ครีอเตอร์ทั่วไปในเวลาต่อมา พร้อมกำหนดส่วนแบ่งรายได้ใหม่ โดยครีเอเตอร์ที่เข้าร่วมโปรแกรมต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- ต้องมีผู้ติดตามอย่างน้อย 10,000 คน
- มียอดวิวรวม 100,000 ครั้งขึ้นไปในเดือนที่ผ่านมา
ระบบ Subscription ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่แพลตฟอร์มช่วยผลักดันให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างคอมมูนิตี้กับกลุ่มผู้ติดตามได้ดีมากยิ่งขึ้น แม้บทสรุปของ TikTok ในสหรัฐฯ จะยังไม่ออกมา แต่ก็ถือเป็นแนวโน้มที่ดีที่รัฐบาลจีนอาจอนุมัติขายกิจการให้กับสหรัฐฯ
ที่มา: SocialMediaToday, tiktokcreators