
YouTube ได้ประกาศการอัปเดตใหม่ทั้งหน้า UI และการขยายฟีเจอร์ตอบคอมเมนต์กลับด้วยเสียง รวมถึงคอมเมนต์แบบเธรดเพื่อให้การมีส่วนร่วมง่ายขึ้นด้วย ซึ่งดูเหมือนอิทธิพลจากเทรนด์การทำหน้าอินเทอร์เฟซแบบใสกำลังเป็นที่นิยมหลังจากการประกาศดีไซน์ Liquid Glass ของ Apple ด้วย
เพราะหน้า UI ของ YouTube ที่มีทั้งหน้าต่างการรับชมและปุ่ม Playback ต่าง ๆ จากเดิมที่มีแต่ไอคอนลอยอยู่เวลากดแสดงคลิปแบบเต็มจอ องค์ประกอบของปุ่มต่าง ๆ จะถูกทำให้มองเห็นมากขึ้น เพราะมีกราฟิกแบบ Translucent รองไอคอนไว้ เลยง่ายต่อการกดมากกว่าเดิม โดยเฉพาะใน Shorts และ YouTube เวอร์ชันทีวี
นอกจากนี้ YouTube ยังมีการอัปเดตการขึ้นคำบรรยายคลิปใหม่ที่ดึงตัวอย่างสีมาจากคลิป พร้อมอัปเดตให้การแตะ 2 ครั้งกลายเป็นฟีเจอร์สำหรับการเสิร์ชระหว่างรับชมคลิปได้ด้วย ส่วนการกดข้ามก็จะสามารถตั้งค่าให้ต่างไปตามแต่ละคนได้ ตั้งแต่ 5, 10 และ 15 วินาที เรียกได้ว่าเป็นการอัปเดตทั้งวิชวลและฟังก์ชันให้ง่ายต่อการใช้งานในคราวเดียว

ในด้านการคอมเมนต์บน YouTube ก็มีการรองรับการตอบคอมเมนต์ด้วยเสียง เพื่อให้ครีเอเตอร์หรือ YouTuber สามารถตอบกลับคอมเมนต์ด้วยเสียงได้หลังจากเปิดตัวไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และเริ่มขยายฟีเจอร์นี้มากขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตอนนี้ครีเอเตอร์สามารถเข้าถึงได้แล้วกว่าหลายแสนคน
โดยการตอบกลับด้วยเสียงนั้นเป็นการบันทึงเสียงให้ตอบกลับคอมเมนต์ได้สูงสุด 30 วินาทีต่อ 1 คอมเมนต์ และสามารถส่งแบบอินสตรีมบนแพลตฟอร์ม หรือ Studio Mobile ได้เลย ซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้มีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายแบบเอ็กซ์คลูซีฟด้วย
รวมถึงการตอบเป็นเธรดคอมเมนต์ได้ ทำให้ผู้ที่อ่านคอมเมนต์ใต้คลิปสามารถมองเห็นการตอบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องได้ในทีเดียวเหมือนกับการตอบคอมเมนต์บนกระทู้เลยก็ว่าได้ โดยได้มีการทดสอบฟีเจอร์นี้ไปเมื่อเดือนกรกฎาคม

และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือการอัปเดต YouTube Courses ที่เปิดตัวครั้งแรกในเวอร์ชันเบต้ากับครีเอเตอร์บางกลุ่มที่ได้รับเลือกในปี 2022 ซึ่งเป็นการรวมหลักสูตรช่วยให้ครีเอเตอร์ได้เรียนรู้ฟรีหรือแบบชำระเงินบนช่องของตัวเองได้ จนถึงตอนนี้หลักสูตรต่าง ๆ บน YouTube เปิดให้เฉพาะครีเอเตอร์กลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น
แต่ฟีเจอร์นี้จะพร้อมให้บริการกับครีเอเตอร์ที่มีการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น พร้อมช่วยให้เข้าถึงเครื่องมือเพิ่มเติมสำหรับการทำช่องผ่าน youtube.com/courses เพื่อให้ผู้ชมใหม่ๆ ค้นพบได้ง่ายอีกด้วย
โดยสรุปแล้วจากการอัปเดตและขยายฟีเจอร์ที่เคยทดสอบกับบางกลุ่มนั้น ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงอะไรที่มีผลกระทบมากนัก แต่เป็นการอัปเดตที่เพิ่มตัวช่วยให้กับเหล่าครีเอเตอร์มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งฝั่ง YouTube ในไทยนั้นคงต้องรอประกาศการอัปเดตในการเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ อีกครั้ง