เป็นเวลาพักใหญ่ๆ แล้วที่ Facebook เพิ่มระบบ Top Fan หรือแฟนตัวยง ตำแหน่งแฟนเพจขาประจำกับผู้ที่ติดตาม พูดคุย มีปฏิสัมพันธ์กับเพจใดเพจหนึ่งมากเป็นพิเศษ ซึ่งจะมี badge ดาวเท่ๆ ติดอยู่กับชื่อเราเวลาโพสต์ แต่นอกเหนือจากความเท่ที่เพิ่มมา ก็ยังไม่มีฟีเจอร์อะไรที่ทำให้ Top Fan นั้นพิเศษกว่าใคร
ใกล้ช่วงเลือกตั้งเข้ามาแล้ว หลายคนอาจจะเริ่มเห็นพรรคการเมืองต่าง ๆ มีการเคลื่อนไหวบน Facebook มากขึ้น เอาเข้าจริง ๆ นี่ก็เป็นเวลาเกือบจะ 8 ปี หลังจากการเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบที่มีผลต่อการเมืองจริง ๆ ในปี 2554 ในตอนนั้นการหาเสียงผ่านโซเชียล ยังไม่เป็นที่นิยมมาก แต่ในตอนนี้เชื่อว่าทุกคนแทบจะมี Smart Phone บางคนเวลาเดินทางมองจอมือถือมากกว่าป้ายโฆษณาข้างทาง ไม่แปลกที่บรรดาพรรคการเมืองต่าง ๆ จะหันมาทุ่มกับการหาเสียงบนซื่อ Social มากขึ้น
หลังจากที่ Facebook เปิดให้คนทั่วไปใช้ Ad Breaks กันเป็นที่เรียบร้อย และรายได้จากโฆษณาค่อนข้างงามเสียด้วย จากนี้ไปจะเข้าสู่ช่วงสงครามวิดีโอคอนเทนต์อย่างเต็มตัว
เป็นเวลา 2 ปีแล้ว หลังจากที่ Facebook Marketplace ได้เปิดให้ใช้งานครั้งแรกเมื่อปี 2016 (บ้านเราก็หลังจากนั้นหน่อย) ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำหรับให้ผู้ใช้ทั่วไปประกาศซื้อ-ขายสินค้ากัน ประหนึ่งว่าเป็นตลาดนัดขนาดย่อมๆ บน Facebook
โซเชียลแต่ละเจ้าก็มักจะมี “หลังบ้าน” เอาไว้ดูสถิติ วันนี้เรามีเครื่องมือนามว่า Total Video Performance ที่เป็นตัวชี้วัดว่าวีดีโอของคุณนั้นเป็นอย่างไร
Facebook เผยว่าคนทั่วโลกใช้ฟีเจอร์ Stories อัพเดทเรื่องราวกันถึง 300 ล้านคนต่อวัน ด้วยตัวเลขที่สูงขนาดนี้ทำให้ Facebook ตัดสินใจเพิ่มช่องทางการลงโฆษณาเข้ามา
หลังจากที่ในหลาย ๆ ประเทศได้ใช้กันมานานแล้ว ล่าสุด Facebook ก็เปิดให้บรรดา Creator ในไทยสามารถใช้ฟีเจอร์ Ad Breaks ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางการ Monetization หรือการหารายได้จากวิดีโอของเรา ด้วยการให้วิดีโอโฆษณามาเล่นกลางคลิป (mid-rolls) ซึ่งเราในฐานะเจ้าของคลิปจะสามารถเลือกได้ว่าจะให้เล่นวิดีโอช่วงไหนหรือเปิดเล่นอัตโนมัติที่ให้อัลกอริทึมเป็นตัวเลือกก็ได้
ในช่วงนี้ Influencer หลายท่านจะมี Brand หรือ Agency มาทำงานร่วมกันแล้วขอทำ Branded Content บน Facebook Post ซึ่งตรงนี้หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องใหม่ ทำให้เกิดความกังวลว่าเราควรทำดีไหม แล้วต้องอะไรยังไงบ้าง
เว็บไซต์ที่รวบรวมคอนเทนต์จำนวนมาก ๆ มักจะมีระบบ “รีวิว” ให้ผู้ใช้งานนำไปประกอบการตัดสินใจ เช่น การเลือกที่พัก, ร้านอาหาร หรือจะเลือกชมภาพยนตร์สักเรื่อง
ไม่ว่าจะก๊อปคอนเทนต์ หรือลอกเลียนแบบตัวตน ก็ล้วนเกิดขึ้นได้บนโลกอินเตอร์เน็ต แต่วันนี้ เราจะมาเล่าถึงเคสที่เป็นมิติใหม่แห่งการก๊อป นั่นคือ “โจรขโมยนม”
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
