Cloud 11 จัดงานครีเอเตอร์เฟสติวัล ‘Collective by Cloud 11’ ครั้งแรก รวมผลงานจากครีเอเตอร์กว่า 50 ชีวิต มาจัดแสดงย่าน South Sukhumvit

Cloud 11 ตอกย้ำความเป็นฮับครีเอเตอร์ โดยการจัดงาน ‘Collective by Cloud 11’ งานครีเอเตอร์เฟสติวัลครั้งแรกในไทย เมื่อวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยนำผลงานสร้างสรรค์ของเหล่าครีเอเตอร์กว่า 50 ชีวิต มาจัดแสดงที่อาคารอุดมพร (ฟิฮาแล็บ) โรงงานเก่ายุค 1960 ย่าน South Sukhumvit ติด BTS ปุณวิถี

คุณองศา จรรยาประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการ Cloud 11 กล่าวถึงความตั้งใจที่จะสร้าง Festival Platform สำหรับแสดงฝีมือและผลงานสร้างสรรค์ของครีเอเตอร์ไทย เพื่อตอกย้ำแนวคิด ‘Empowering Creators’ และวิสัยทัศน์การสร้างฮับของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จึงเป็นที่มาของการจัดงาน Collective by Cloud 11 โดยมีแผนจะจัดต่อเนื่องในเดือน 11 ของทุกปี

ซึ่งงาน Collective by Cloud 11 พัฒนามาจากหลักแนวคิด 3C คือ Creativity, Collaboration และ Community โดยได้ร่วมสร้างสรรค์กับ คุณหมู นนทวัฒน์ เจริญชาศรี จาก DUCTSTORE The Design Guru และ คุณพอล สิริสันต์ จาก VIBAL Corporation เพื่อวางกลยุทธ์ ออกแบบ ร่วมคัดสรร ผลงานจากครีเอเตอร์กว่า 50 คน และจัดงานโดยแบ่งออกเป็น 5 โซนหลัก ได้แก่

COLLECTIVE EXHIBITION

โซนการจัดแสดงงานที่มีทั้ง Immersive Art จากสตูดิโอชื่อดังอย่าง From Object to Studio ที่ทำงานร่วมกับศิลปิน Univirtar.io, Anofficerdies และ Youth Brush ถ่ายทอดผลงาน Sanctum: Retreat Your Mind และยังมีกลุ่ม DecideKit ที่ได้มาจุดประกายงานศิลปะที่แตกต่าง ภายใต้คอนเซ็ปต์การผสมผสานศิลปะแห่งเสียงเพลงกับศิลปะแห่งภาพ เพื่อให้เข้าถึงบทเพลงของศิลปินอย่าง ภูมิ วิภูริศ

รวมถึงนิทรรศการงานอินสตอลเลชัน Dark Frequency Room ที่ผสานกับเทคโนโลยีใหม่แห่งโลกยุคดิจิทัลจาก Kor.Bor.Vor ร่วมกับศิลปินด้าน New Media อย่าง SQUARE DOTS และ Exhibition จาก Yellaban ในชื่อ Lucid Dream ที่เน้นการเชื่อมปฏิสัมพันธ์ให้ผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมกับผลงาน

นอกจากนี้ ยังมีศิลปินอีกมากมาย ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเฉพาะตัวได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Interactive Generative Art, Immersive Interactive Installation, Audio Visual Art Installation และ Sound Installation

นอกจากนิทรรศการจากครีเอเตอร์แล้ว ยังมีโซน Arts จากศิลปินชื่อดัง เช่น ธนชัย อุชชิน (ป๊อด โมเดิร์นด็อก), เมธี น้อยจินดา (เมธี โมเดิร์นด็อก) และ Nev3r เป็นต้น รวมถึง Photo Exhibition จาก ชำนิ ทิพย์มณี ช่างภาพระดับแนวหน้าของเมืองไทยที่มาในคอนเซ็ปต์ Past Present Future การเปลี่ยนผันจากอดีตผ่านปัจจุบันไปสู่อนาคต พร้อมกับเหล่า Young Generation และ Art Market ร้านค้าศิลปะจากครีเอเตอร์ในหลากหลายวงการ อาทิ Yuree Kensaku, Tanasan Kanakasem, Dojo และศิลปินท่านอื่นอีกมากมาย

COLLECTIVE MUSIC SHOWS

โซนจัดแสดงดนตรีจากศิลปินและดีเจชื่อดังที่ได้มาร่วมสร้างสีสันกันอย่างเต็มอิ่มตลอดทั้ง 2 วันของการจัดงาน ไม่ว่าจะเป็น Whal & Dolph วงดนตรีอินดี้ป็อปสัญชาติไทยจากค่าย What the duck และ AUTTA แรปเปอร์อัจฉริยะ จากค่าย Yupp! ซึ่งในระหว่างโชว์ ทั้งสองศิลปินได้จัดเซอร์ไพรส์ให้ผู้ชม โดยได้ถ่ายทอดบทเพลงในดนตรี แบบ Acoustic ที่ถือว่าไม่ได้หาชมกันได้ง่าย ๆ

นอกจากนี้ยังมี ดีเจ Aopsherrrrr, MJMA, Mae HappyAir, Club Mascot, Winkieb และ Marmosets ที่ยกขบวนกันมาจัดการแสดงอย่างเต็มอิ่ม

COLLECTIVE TALKS

โซนที่รวบรวมครีเอเตอร์ระดับท็อปจากสายต่าง ๆ มาร่วมพูดคุย และจุดประกายไอเดียให้กับครีเอเตอร์ยุคใหม่ตลอดทั้ง 2 วัน ไม่ว่าจะเป็น

  • ทีม Fungjai, Nino เกริก ชาญกว้าง (Hype Train Entertainment) และ เจ-มณฑล จิรา นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ที่มาร่วมพูดคุยในหัวข้อ “The Digital Revolution in Music Transforming Creation, Distribution and Consumption”
  • คุณพรรณธร ลออรรถวุฒิ จาก VUCA, คุณภารุต เพ็ญพายัพ จาก Idyllias, คุณเมธากวี สีตบุตร จาก DUCTSTORE the design guru, คุณชนาธิป และคุณตฤณ จาก AI-DEATE ผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีเพื่อการสร้างสรรค์ผลงาน ในหัวข้อ “How Do You Best Approach The Technological Implementation of Your Work in The Creative Process?”
  • Kor.Bor.Vor, Decide Kit, Pomme Chan 3 ครีเอเตอร์ตัวท็อป ในหัวข้อ “The Evolution of Design and Technology Over The Past Decade”
  • IGLOO STUDIO และคุณคอด สตรูสายาง จาก Houghton Street Production ที่มาร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนในหัวข้อ “The Impact of Technology on Storytelling: from Script to Screen”

COLLECTIVE FOOD & BEVERAGE

เก็บความรู้กันเต็มอิ่มแล้ว ด้านหลังของตึกยังมีโซนที่ให้คนที่มาร่วมงานได้ดื่มด่ำไปกับอาหาร และเครื่องดื่มจากหลากหลายร้านชื่อดังมาไว้ในงานเดียว รวมถึงบรรยากาศชิลชิล พร้อมกับลมเย็น ๆ ในช่วงต้นหนาวแบบนี้ โดยภายในงานได้นำร้านชื่อดัง อาทิ ร้านอาหารตะวันตก จาก God of Grill Steak และ Guten Appetit homemade Germany

ร้านอาหารฟิวชั่น จาก Chunn.bkk และ Baan Head Chef ร้านอาหารเกาหลี จีน และเอเชียน จาก OVERSEOUL, yapooyapla, Hosek by Porrin Kitchen, Yum Lum Kha-nad และ Mori Kitchen Lab รวมถึงร้านเครื่องดื่มและของหวาน จาก ROOTS, MIRAI BANGKOK, Go Coffee & Ice cream, SHADE COMMUNE, Tea Lovers Everyday

COLLECTIVE NETWORKING SESSION

โซนที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของ Studio 11206 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้มาทำความรู้จัก และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยใช้ Talk Card เป็นสื่อกลาง ภายใต้หัวข้อ “Talk That Talk: Does AI Dream of Electric Sheep?” ในการสำรวจความสัมพันธ์ และผลกระทบระหว่าง AI กับมนุษย์ ผ่านมุมมองเชิงปรัชญา ศีลธรรม จรรยาบรรณ และศาสตร์ความรู้

และสุดท้ายที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือ การแสดง Projection Mapping ที่ฉายไปยังตัวตึกฟีฮาแล็บ ซึ่งเป็นการผสมผสานความงามของตึกที่มีดีไซน์แบบยุค 60s เข้ากับการออกแบบ Lighting และ Ambience ที่ใช้ศิลปะ และเทคโนโลยีแห่งโลกยุคใหม่ทำให้เกิด Immersive Experience ได้อย่างลงตัว และเป็นไปตามคอนเซ็ปต์ของงาน

ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับ Cloud 11 เพิ่มเติมได้ที่: https://www.facebook.com/cloud11bangkok หรือ https://www.cloud11bangkok.com/

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save