จริงอยู่ที่กล้องใหญ่ไม่ว่าจะ Mirrorless หรือ DSLR สามารถถ่ายภาพออกมาได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนพอสมควร แต่ข้อจำกัดเรื่องการพกพา อุปกรณ์เสริม หรือแม้แต่ “ราคา” ก็เป็นเหตุให้ Content Creator หลายคนไม่ได้เป็นเจ้าของกล้องเหล่านี้
แค้ไอ้เจ้าสมาร์ทโฟนที่อยู่กับคุณนี่แหละ สามารถ “จบงาน” ด้านคอนเทนต์ภาพนิ่งได้สบายๆ ทดแทนกันได้ไม่ยาก เพียงแค่อาจต้องมีรายละเอียดที่เราต้องรู้อีกนิดหน่อย
หัดโฟกัสด้วยนิ้ว
ปัญหาที่สำคัญที่สุดของการถ่ายภาพคือ “ภาพเบลอ” และหนึ่งในสาเหตุยอดฮิตของภาพเบลอก็คือ “โฟกัสไม่เข้า” จะเล็งนานไป หรือจ่อไกล-ใกล้ไปก็สามารถทำให้โฟกัสพลาดได้ไม่ยาก
โดยวิธีแก้ปัญหาที่ง่าย แต่ต้องหัดให้เป็นนิสัยนั่นคือการทำ Manual Focus หรือใช้นิ้วแตะโฟกัสนั่นเอง ซึ่งสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้ทุกรุ่นก็จะมีฟีเจอร์นี้อยู่แล้ว โดยนอกจากจะทำให้ภาพเราไม่เบลอ ก็ยังทำให้ภาพมีมิติ ชัดตื้น ชัดลึกได้ด้วย (ในบางสถานที่ถ่าย)
ฝึกกลั้นหายใจก่อนถ่าย
แม้จะฟังดูน่ากลัว แต่ในบางครั้งการ “กลั้นหายใจก่อนถ่าย” ชั่วครู่ เพื่อให้ร่างกายเราขยับน้อยที่สุด (กระบังลมจะไม่ขยับเมื่อเรากลั้นหายใจ) ทำให้เราสามารถถ่ายภาพในสภาพแสดงน้อยหรือสภาวะที่จะทำให้ภาพสั่นได้ดีขึ้นมาก เพราะเมื่อภาพสั่น การมาแก้ไขทีหลังก็แทบจะเป็นไปได้ยากมาก
ครอปภาพก่อนถ่ายได้เลย
คอนเทนต์แต่ละรูปแบบอาจต้องใช้สัดส่วนภาพที่แตกต่างกัน เช่น 1:1, 4:3, 3:2 หรือ 16:9 ซึ่งถ้าเกิดเราเอาภาพถ่ายมาทำการครอปทีหลัง อาจทำให้องค์ประกอบภาพขาดหาย ของไม่ครบ เพราะฉะนั้นเราควรเลือกสัดส่วนภาพที่เหมาะสมก่อนถ่ายเลย เพื่อให้ภาพออกมาตรงกับที่เราต้องการในครั้งแรก แถมเป็นการลดขั้นตอนการทำงานอีกด้วย
ตั้งเป็น RAW ไว้ก่อน
มีสมาร์ทโฟนหลายตัวที่สามารถถ่ายไฟล์ RAW หรือไฟล์ดิบก่อนประมวลผลควบคู่ไปกับภาพจริงที่ออกมาได้ ซึ่งข้อเสียของไฟล์ RAW นั่นคือมีขนาดใหญ่สุดๆ แต่ข้อดีก็คือมีความยืดหยุ่นในการดึงสี แต่งแสง ฯลฯ ที่ดีกว่าไฟล์ภาพปกติมากๆ โดยถ้าใครมีเวลาแต่งภาพ ก็ส่งไฟล์ RAW จากมือถือขึ้นคอมพิวเตอร์เข้าโปรแกรมแต่งภาพจริงจัง เช่น Lightroom ได้เลย หรือใครอยากจบในมือถือเลย แอปแต่งภาพก็รองรับไฟล์ RAW เหมือนกันนะ
ควรมีแอปแต่งภาพ #ที่จริงจัง
ใครก็มีแอปแต่งภาพในมือถือกันทั้งนั้น แต่บางแอปก็อาจเป็นแค่แอปที่ใส่ filter ทีเดียวจบ และสีก็ออกแนวแฟนตาซีเล็กน้อย ซึ่งถ้าเราต้องถ่ายภาพใช้งานในการทำคอนเทนต์ แอปแต่งภาพแบบจริงจังจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ
โดยแอปประเภทนี้จะหมายถึงแอปที่สามารถแต่งแสง ความเปรียบต่าง ความคมชัด ความเบี้ยว ฯลฯ ได้อย่างละเอียด และทำให้ทุกรูปที่เราถ่ายจะมีโทนภาพออกมาคล้ายกันได้ ยกตัวอย่างแอป Snapseed (iOS และ Android)
ใช้แฟลชแต่พอดี
การใช้แฟลชก็จะทำให้ภาพออกมาสว่าง ชัด ไม่สั่น แต่อีกแง่ก็เป็นการทำให้ภาพเสีย ขาดรายละเอียดและสีที่แท้จริงไปมาก เพราะฉะนั้นเราควรจะ “ปิดแฟลช” เป็นค่าเริ่มต้นในกล้องสมาร์ทโฟนไว้ก่อน โดยถ้าเกิดภาพออกมามืดจริง ก็ยังนำไปแต่งได้อยู่บ้าง แต่ถ้าใช้แฟลชล่ะก็มีแต่ขาวแน่นอน
