
ในยุคที่การเป็นครีเอเตอร์ต้องอัปสกิลและต้องกล้าลงทุน อาจทำให้ค่าใช้จ่ายเพื่อการอัปสกิลแพงเกินไป หรืออาจจะไม่คุ้มค่ากับเงินที่ใช้ลงทุนในเส้นทางการเป็นครีเอเตอร์ แต่! งาน iCreator Conference 2025 จะทำให้การอัปสกิลเหล่านั้นทั้งหมดกลายเป็นเรื่อง “ฟรี!”
เคยไหมเวลาที่ได้ทำอะไรที่ชอบจะรู้สึกฟินจนลืมไปว่าเส้นทางกว่าจะได้มานั้นหมดเงินไปเท่าไหร่ ซึ่งโมเมนต์นี้มักจะเกิดขึ้นจนเรารู้สึกไม่เสียดายเงินที่เสียไป เช่นเดียวกับการอัปสกิลที่หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าต้องเติมด้วยการเข้าเรียนคลาสออนไลน์ หรือการไป Workshop เพื่อรับประสบการณ์กับผู้คนใหม่ ๆ เท่านั้น
แต่การอัปสกิลในปี 2025 เพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือปี 2026 จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป! เพราะทุกอย่างที่ใช้ในการอัปสกิลจะมารวมกันอยู่ที่งาน iCreator Conference 2025!
เจอกับครีเอเตอร์ระดับท็อป 50+ คน = ฟรี!
งานนี้ซื้อบัตรแค่ครั้งเดียวแต่ได้เจอครีเอเตอร์ระดับท็อปของไทยมากกว่า 50 คนที่มารวมตัวกันในงานนี้ พร้อมกว่า 20+ เซสชันที่จะมาแชร์ในฐานะครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จ และครีเอเตอร์ที่กำลังสร้างเส้นทางของตัวเองแบบหาฟังได้แค่ที่งานนี้เท่านั้น เพราะ iCreator Conference คืองานมหกรรมรวมตัวครีเอเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
ฟังประสบการณ์จากครีเอเตอร์ตัวจริง = ฟรี!
เพราะการเป็นครีเอเตอร์มักจะต้องมาคู่กับการอัปสกิลให้ทันเทรนด์และทันความสนใจของผู้ชมอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะได้พัฒนาคอนเทนต์ แต่มางาน iCreator Conference จะได้ฟังประสบการณ์จริง และได้แรงบันดาลใจจริงจากครีเอเตอร์ไทย โดยไม่ต้องเสียเงินไปอัปสกิลผ่านคอร์สหลายคอร์ส เพราะงานนี้คัดมาให้แล้วว่าหัวข้อไหนจะเหมาะกับครีเอเตอร์ในการปรับตัว และอยู่รอดในปี 2026
อัปเดตเทรนด์จากแพลตฟอร์มระดับโลก = ฟรี!
นอกจากเซสชันที่มาจากประสบการณ์จริงจากครีเอเตอร์กว่าทั้ง 50+ คนแล้ว งาน iCreator Conference ก็ยังมีเซสชันที่จะได้มาฟังการอัปเดตจากแพลตฟอร์มระดับโลกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Facebook และ Instagram (Meta), TikTok, YouTube ไปจนถึง LINE และ Lemon8 ที่จะจัดสรรสลับมาให้ทุกปีเพื่ออัปเดตในแง่มุมของแพลตฟอร์มที่ครีเอเตอร์ควรรู้
เรียน Workshop อัปสกิลทำคอนเทนต์ = ฟรี!
ในงาน iCreator Conference ไม่ได้แค่นั่งฟังเซสชันธรรมดา แต่ยังมีห้อง Workshop กว่า 9 เซสชัน ให้เหล่าครีเอเตอร์ได้ไปรับเทคนิคและอินไซต์ รวมถึงการปฏิบัติจริงจาก Workshop ที่จะมีเรื่องของอุปกรณ์การทำคอนเทนต์ หรือการสะท้อนตัวตนผ่านคอนเทนต์กับเหล่าผู้เชี่ยวชาญตัวจริงแต่ละด้านได้มากขึ้น
คุย 1:1 กับครีเอเตอร์คนโปรด = ฟรี!
หากคิดว่าการมีเซสชันและ Workshop ยังเติมความรู้เพื่อนำไปอัปสกิลการเป็นครีเอเตอร์ไม่พอ งาน iCreator Conference ก็มีให้ลงทะเบียน ‘iCreator Clinic’ สำหรับปรึกษาหรือพูดคุยกับครีเอเตอร์คนโปรดคนละ 4 – 5 นาที พร้อมได้รับแรงบันดาลใจแบบเต็ม ๆ โดยไม่ต้องเสียเงินเพื่อไปเจอครีเอเตอร์ที่ชอบแต่ละคน
ทำความรู้จักครีเอเตอร์ไทยในวงการด้วยกัน = ฟรี!
เนื่องจากการสร้าง Connection เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ต่างจากการอัปสกิลสำหรับครีเอเตอร์ งาน iCreator Conference ที่นอกจากจะเต็มไปด้วย Speaker ที่เป็นครีเอเตอร์ระดับท็อปของไทยแล้ว ผู้เข้าร่วมงานนี้ก็เต็มไปด้วยครีเอเตอร์หลากหลายสายที่ทุกคนมารวมตัวกัน และสามารถมาทำความรู้จักกันได้ในงานเดียวด้วย
นั่งจดเลกเชอร์ตลอดทั้งวัน = ฟรี!
ใครเป็นสายจดชอบบันทึกความรู้หรือทำคอนเทนต์ งาน iCreator Conference ก็จะมีกว่า 20+ เซสชันเพื่อให้เหล่าครีเอเตอร์ได้จดกันอย่างมันส์มือ อีกทั้งหัวข้อแต่ละเซสชันก็ถูกคัดมาแล้วว่ามีอินไซต์ที่นำไปใช้ได้จริง พร้อมให้เตรียมจดเลกเชอร์กันตลอดทั้งวันจนลืมพักกันเลยทีเดียว
เดินทั่วงานเพราะหา Stage ไม่เจอ = ฟรี!
งาน iCreator Conference ที่มีเซสชันเยอะ และมีการแยก Stage ก็อาจจะทำให้หลาย ๆ คนต้องเดินหาเซสชันที่ถูกแยกออกไปอีก แต่การเดินทั่วงานก็กลายเป็นอีกกิมมิกหนึ่งของงานไปแล้ว เพราะเราอยากให้ทุกคนเดินออกกำลังกายกันนั่นเอง (เอ้า วิ่ง!)
Session เยอะจนเลือกฟังไม่ถูก = ฟรี!
บทจะได้เดินทั่วงานแล้ว งาน iCreator Conference ก็มี Session ในงานที่มีเยอะจนเลือกไม่ถูกเป็นอีกกิมมิกสำคัญ แต่แนะนำให้เลือกเข้าฟังเซสชันที่อยากฟังมากที่สุด หรืออยากเจอกับครีเอเตอร์คนโปรดมากที่สุด เพราะเรามีให้รับชมย้อนหลังกันทุกเซสชันยาว ๆ 6 เดือนเต็มเลย
ซื้อบัตร BLIND BIRD 880.- ราคาคุ้มเกิน = ฟรี
สุดท้ายแล้วความคุ้มความฟรีมันก็มารวมกันอยู่ตรงนี้! กับราคาบัตรสุดพิเศษที่จะมีแค่ครั้งเดียวในปีนี้กับบัตร ‘Blind Bird ราคา 880 บาท’ จะซื้อคนเดียวหรือชวนเพื่อนมาซื้อหลายคนก็ราคานี้ และมีจำหน่ายถึงแค่วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคมนี้ จำกัด 100 ใบเท่านั้นนะ ใครยังไม่มีบัตรรีบเลย เพราะราคานี้ซื้อให้คุ้มในครั้งเดียวเหมือนได้มางานฟรี!
#iCreator2025 #iCreatorConference #RAiNMaker
