ในแวดวงคอนเทนต์ครีเอเตอร์ โซเชียลมีเดียหมายเลข #1 อย่าง “Facebook” มักจะเป็นตัวเลือกแรก ที่ครีเอเตอร์หน้าใหม่มาลงสนาม ลองสร้างฐานผู้ติดตามของตัวเอง แต่ก็มักจะมีคำบอกต่อกันมาว่า Facebook สร้างฐานผู้ติดตามยาก หรือมีแต่คนมีอายุใช้กัน วันนี้ทาง RAiNMaker จึงอยากมาแชร์ ว่าจะปลดล็อกความเชื่อผิด ๆ เหล่านั้นได้ ต้องรู้จักใช้เครื่องมือ หรือฟีเจอร์อะไรเข้ามาช่วยบ้าง!
ในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นครีเอเตอร์ได้ แพลตฟอร์มก็เริ่มมีเครื่องมือ พร้อมอัปเดตฟังก์ชัน และฟีเจอร์ใหม่ ๆ มารองรับการสร้างคอนเทนต์ให้เป็นธรรมดา ซึ่งในมุมผู้ใช้ที่คอยอัปเดตตาม และใช้งานจริงกันมาตลอดก็เจอปัญหาควบคู่กัน
แต่! บางปัญหาก็อาจเป็นความเชื่อ และความเข้าใจผิดที่บอกต่อกันมามากจนเกินไป ทำให้แพลตฟอร์มมักจะเป็นฝ่ายรับจบอยู่เสมอ โดยเฉพาะ Facebook แพลตฟอร์มยุคบุกเบิกของโลกโซเชียลมีเดีย
อย่างที่หลาย ๆ คนยังเข้าใจว่ามีแต่คนมีอายุใช้ และปั้นยอดผู้ติดตามยาก เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการติดตาม เพื่อน และครอบครัว มากกว่าจะสร้างฐานผู้ติดตามให้กลายเป็นคอมมูนิตี้เป็นของตัวเอง ทำให้การเป็นครีเอเตอร์หน้าใหม่ที่อยากสร้างรายได้บน Facebook เป็นเรื่องยาก
ใครที่มีความคิด และความเชื่ออย่างที่กล่าวไปด้านบนอยู่ RAiNMaker จะพามาดูกัน ว่าจะมีวิธีแก้ และทำความเข้าใจ Pain Point เหล่านั้นให้ถูกต้องอย่างไร โดยที่ไม่ต้องกังวลมากเกินไป จนไม่ได้เริ่มเส้นทางการเป็นครีเอเตอร์ของตัวเอง ซึ่ง 5 Pain Point ที่คนมักจะเข้าใจผิดบน Facebook นั้นมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย!
Pain Point #1 – Facebook เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเพื่อน และครอบครัวเท่านั้น
Facebook เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยุคบุกเบิก ที่เริ่มต้นมาจากการสร้างโปรไฟล์ของตัวเอง และผู้คนก็มักจะมีผู้ติดตามคนแรก ๆ เป็นคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือครอบครัว
จึงทำให้ Mindset นี้ยังคงเกิดขึ้นมาตลอดว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเพื่อน และครอบครัวเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้ว Facebook นั้นสร้างโลกให้เราทุกคนเชื่อมต่อกันได้กว้างกว่าที่ทุกคนคิดเสียอีก
Fact Check:
- Facebook เข้าถึงได้มากกว่าเพื่อน และครอบครัว
ปัจจุบัน Facebook มีผู้คนทั่วโลกเข้าใช้งาน และแอ็กทีฟเแอคเคานท์อยู่เป็นประจำกว่า 2 พันล้านคนต่อวัน ซึ่งจำนวนคนเท่านี้จึงสามารถการันตีได้ว่า การสร้างคอนเทนต์ไม่ว่าจะด้วยฟอร์แมตไหน ก็จะสามารถเข้าถึงคนเหล่านั้นได้
ซึ่งไม่ใช่แค่คนใกล้ตัว หรือเฉพาะผู้ที่ติดตามเท่านั้น และโอกาสที่ถูกค้นพบหน้าฟีดบน Facebook ก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นใครที่เคยคิด หรือเข้าใจว่า Facebook ไม่เหมาะกับการหาคอมมูนิตี้ใหม่ ๆ ตัดทิ้งไปได้เลย เพราะไม่ว่ากลุ่มเป้าหมายจะอยู่ไกลข้ามโลก ก็สามารถเชื่อมต่อถึงกันและกันได้
Pain Point #2 – มีแค่คนอายุเยอะที่เล่น Facebook
“มีแต่คนมีอายุเท่านั้นแหละที่เล่น Facebook” ซึ่งเป็นความเชื่อที่ใครหลาย ๆ คิดกัน เลยทำให้กังวลว่าการลงคอนเทนต์ หรือการเป็นครีเอเตอร์หน้าใหม่ โดยเริ่มจากการสร้างโปรไฟล์ และสร้างเพจนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะอาจจะไม่เจอกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ที่เป็นคนรุ่นใหม่
แต่ในปัจจุบัน Facebook มี AI เข้ามาช่วยเลือกการคัดเลือกคอนเทนต์ และเพิ่มการมองเห็นให้คอนเทนต์ทุกประเภทบน Facebook ด้วยการเป็นทั้งเครื่องมือ และตัวช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์แล้ว ซึ่งไม่ว่าจะกลุ่มเป้าหมายเป็นเพศไหน วัยไหน หรืออายุเท่าไหร่ ก็สามารถเข้าถึงคอมมูนิตี้ที่หลากหลายได้ง่ายกว่าที่คิด
Fact Check:
- ฟีเจอร์ “Facebook Recommendation”
เริ่มที่ตัวช่วยการตามหาผู้ติดตามให้เจออย่าง ฟีเจอร์ Facebook Recommendation ที่มี AI คอยแนะนำเนื้อหาตามความสนใจให้กับผู้ใช้ ซึ่งไม่ว่าจะทำคอนเทนต์ประเภทไหนก็ครอบคลุมหมด ทั้งโพสต์, ข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอสั้นอย่าง Reels หรือวิดีโอยาว, ไลฟ์สตรีมและ Facebook Group ที่เป็นแหล่งรวมคอมมูนิตี้ ก็จะมีขึ้นแนะนำให้ติดตามตามความสนใจของแต่ละคนได้
นอกจากนี้ทั้งเพจ หรือกลุ่มที่สร้างขึ้นมา ฟีเจอร์ Facebook Recommendation ก็สามารถแนะนำให้กับกลุ่มผู้ติดตามที่หลากหลายคอมมูนิตี้ และเข้าถึงได้ทุกช่วงอายุด้วย เรียกได้ว่าแค่รู้ และเข้าใจในกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง Facebook ก็จะพาทุกคนไปเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ได้เสมอ ไม่ได้มีแต่คนมีอายุอย่างที่เข้าใจกัน
Pain Point #3 – เริ่มเป็นครีเอเตอร์บน Facebook ยาก แต่หาผู้ติดตามยากกว่า
แน่นอนว่าการเริ่มเป็นครีเอเตอร์จะต้องคำนึงถึงจำนวนผู้ติดตาม และการสร้างรายได้เป็น 2 อันดับแรก ซึ่งในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นครีเอเตอร์ และต้องสร้างความแตกต่างให้ตัวเองโดดเด่นว่ายากแล้ว การสร้างฐานผู้ติดตามให้เยอะ และต่อเนื่องก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน
และบน Facebook ที่มีทั้งผู้ใช้งานแอ็กทีฟต่อวันเยอะ และทุกคนก็สามารถสร้างเพจ และกลายเป็นครีเอเตอร์ได้ การเริ่มเป็นครีเอเตอร์บน Facebook จึงเป็นเรื่องยาก แต่ถ้ารู้จักฟีเจอร์เหล่านี้นี้ก่อน ทกุอย่างจะเป็นไปได้แน่นอน แม้คุณจะเริ่มเป็นครีเอเตอร์หน้าใหม่ก็ตาม
Fact Check:
- ฟีเจอร์ “Professional Mode”
ฟีเจอร์ที่จะเป็นตัวช่วยให้ครีเอเตอร์หน้าใหม่ทุกคน เปลี่ยนจากโปรไฟล์ส่วนตัวของตัวเอง ให้กลายเป็นโปรไฟล์โหมดมืออาชีพ เพราะยังรักษาเพื่อน และผู้ติดตาม และการเชื่อมต่อในโปรไฟล์เดิมทั้งหมด ต่างเพียงแค่ทุกคนจะสามารถส่องอินไซต์เชิงลึกเกี่ยวกับผู้ติดตามผ่าน “Professional Dashboard” หรือ “Professional Mode Guide” เพื่อวางแผนการทำคอนเทนต์ และทำความเข้าใจยอดเอ็นเกจเมนต์ที่เรามีได้มากขึ้น
แถมยังเพิ่มการมองเห็นเมื่อลงคอนเทนต์ และมีสิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์ และฟังก์ชันใหม่ ๆ ของ Facebook อย่าง “Reels Analytics” หรือ “Monetization Insights” เพื่อหาทางสร้างรายได้จากคอนเทนต์ได้ ซึ่งรักษาทั้งฐานผู้ติดตามเดิมที่มีทั้งเพื่อน และครอบครัว แต่ก็เพิ่มผู้ติดตามที่เป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ในเวลาเดียวกันด้วย
- ฟีเจอร์ “Suggested For You”
ใครที่กังวลว่าเป็นครีเอเตอร์หน้าใหม่แล้วจะมียอดการมองเห็นน้อย ฟีเจอร์ Suggested For You นับเป็นตัวช่วยแก้ปัญหานี้ได้ดี เพราะแม้แต่คนที่ไม่ได้ติดตามเรา ก็จะได้เห็นการแนะนำคอนเทนต์ของเราผ่านฟีดบน Facebook ด้วย เพื่อขยายฐานผู้ติดตามให้ใหญ่มากขึ้นนั่นเอง
โดยคำแนะนำที่ผู้ติดตามคนอื่น ๆ เห็นผ่านตาจะมีทั้งโพสต์หน้าฟีด ผู้คนที่ควรติดตาม หรือกลุ่มบน Facebook ที่ควรเข้าร่วม เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ช่วยเพิ่มยอดเอ็นเกจเมนต์ และการมองเห็นเพิ่มขึ้นได้ดีสำหรับครีเอเตอร์หน้าใหม่เลย
Pain Point #4 – Facebook มีเครื่องมือส่องอินไซต์กลุ่มเป้าหมายซับซ้อน
ทุก ๆ แพลตฟอร์มนั้นล้วนมีหลังบ้านไว้สำหรับส่องอินไซต์ และที่มาของยอดเอ็นเกจเมนต์เป็นเบื้องหลังของคอนเทนต์แต่ละโพสต์ แต่หลาย ๆ คนมักจะคิดว่า Facebook นั้นมีเครื่องมือที่เยอะ จนอาจทำให้สับสนว่าเครื่องมือแต่ะละอย่างอยู่ตรงไหน และมีความซับซ้อน แต่ความจริงแล้ว ทุกอย่างที่ควรเก็บข้อมูลนั้น ถูกรวมไว้ในที่เดียวหมดแล้ว!
Fact Check:
- ฟีเจอร์ “Facebook Insights”
เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์ทุกคนสามารถเรียนรู้อินไซต์ของกลุ่มผู้ติดตามแบบเข้าใจง่าย แม้กระทั้งยอดเอ็นเกจเมนต์อย่าง Like, Share, Comment และ Reaction ก็มีสรุปมาให้ของทุก ๆ โพสต์บน Facebook แถมยังช่วยค้นหาคอมเมนต์ในโพสต์ และบริหารจัดการคอมเมนต์นั้น ๆ ได้ในครั้งเดียว ผ่านการกำหนด Keywords หรือชื่อผู้คอมเมนต์ได้ด้วย
แต่สำหรับใครที่อยากส่องอินไซต์เกี่ยวกับกลุ่มผู้ติดตามแบบเชิงลึกที่ละเอียดมากขึ้น ก็สามารถเข้าไปที่ “Meta Business” และเลือกแถบด้านข้างที่ชื่อ “Insights” ไอคอนรูปกราฟได้เลย เพราะ Facebook ได้รวมยอดเอ็นเกจเมนต์ที่ควรรู้เบื้องต้น และเชิงลึกไว้หมดแล้ว
ทั้งการดูแบบ Overview ที่เลือกช่วงระยะเวลาในการติดตามผลลัพธ์ของเพจแบบกำหนดเองได้ หรือจะเช็ค Facebook Reach และ Audience ที่วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ติดตามทั้งหมดก็ทำได้ ไปจนถึงอินไซต์การตอบ Messaging และสถิติยอดเอ็นเกจเมนต์แต่ละคอนเทนต์ที่โพสต์ลงไปก็มี เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือช่วยทำความเข้าใจอินไซต์ได้ครบ จบ ในที่เดียว ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิดเลย
Pain Point #5 – เป็นครีเอเตอร์มือใหม่บน Facebook หารายได้ยาก
โดยปกติแล้วหลาย ๆ คนจะมีความเข้าใจว่าการเป็นครีเอเตอร์นั้น มักจะเปลี่ยนจากยอดเอ็นเกจเมนต์จากคอนเทนต์สู่รายได้เป็นหลัก ทำให้ครีเอเตอร์ใหม่หลายคนที่ต้องมาลงสนามแข่งกับครีเอเตอร์ที่มีอยู่แล้ว มองว่าการเป็นครีเอเตอร์มือใหม่บน Facebook หารายได้ยากกว่า เพราะต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ศูนย์ แต่เพราะ Facebook สนับสนุนการสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์ทุกคน จึงมีเครื่องมือพร้อมช่วยสร้างรายได้อยู่แล้ว
Fact Check:
- In-stream Ads Program
การโฆษณาระหว่างที่ผู้คนกำลังดูคอนเทนต์ ซึ่ง In-stream Ads Program ของ Facebook จะแสดงโฆษณาควบคู่กับช่วงก่อนคอนเทนต์จะเล่น หรือระหว่างที่คอนเทนต์เล่น และหลังคอนเทนต์จบ โดยสามารถใช้ได้กับทั้งวิดีโอสั้น และวิดีโอยาวเลย
- Ads on Facebook Reels
ฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับการใช้งาน Professional Mode ซึ่งโฆษณาในรูปแบบนี้จะมีการโฆษณาบนวิดีโอ Reels ได้เลย หรือระหว่างที่วิดีโอ Reels กำลังลูปเล่นใหม่อยู่ โดยครีเอเตอร์จะได้รับรายได้พร้อมกับคอนเทนต์ที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้คนไปด้วยนั่นเอง
- Facebook Stars
เพราะ Facebook อยากจะผลักดันให้ครีเอเตอร์หันมาสร้างรายได้ด้วยคอนเทนต์วิดีโอ Reels มากขึ้น จึงมีโปรแกรมการโดเนตขึ้นมา โดยสามารถเปลี่ยนดาว และของขวัญจากผู้ติดตามมาเป็นรายได้เพื่อให้ทุกคนสามารถสร้างรายได้จากวิดีโอ Reels, Live และวิดีโอทั่วไปด้วย
จาก Pain Point ทั้ง 5 ข้อ ก็จะเห็นได้ชัดว่า แพลตฟอร์มที่ปรับตัวด้วยการอัปเดตอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาอย่าง Facebook ที่อยู่มาตั้งแต่ยุคโปรไฟล์ออนไลน์ ฟีดข่าว เพจ แชต เกม วิดีโอยาว วิดีโอสั้น ไลฟ์สตรีม มาจนถึงยุคของการควบรวมกับ Instagram กลายเป็น Meta และโฟกัสเรื่องของอัลกอริทึม และ AI มากขึ้น
มีฟีเจอร์ และเครื่องมือคอยช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์ตอบโจทย์หน้าฟีดที่ใช่ของผู้ใช้แต่ละคนได้ รวมถึงมีแหล่งคอมมูนิตี้ที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่เฉพาะคนอายุเยอะเท่านั้น แต่ไม่ว่ายุคไหน Facebook ก็จะหาแนวทางของตัวเอง เพื่ออัปเกรดให้อยู่รอดในทุกยุค และพร้อมที่จะรองรับอะไรใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับยุคสมัยของผู้ใช้ทุกคนต่อไป
ฉะนั้นก็วางใจได้ว่าการเริ่มเป็นครีเอเตอร์หน้าใหม่ หรือมีช่องทางของตัวเองบนแพลตฟอร์มนี้ ทุกคนมีโอกาสที่จะถูกแนะนำขึ้น Facebook Feed ถูกเพิ่มการมองเห็น และสร้างฐานผู้ติดตามได้รวดเร็ว
เพราะเครื่องมือ และฟีเจอร์ของ Facebook จะช่วยซัพพอร์ต และช่วยให้ทุกคนได้เชื่อมต่อกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกยุคต่อได้อย่างแน่นอน ซึ่งใครที่มีความฝันอยากเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ และสร้างฐานผู้ติดตามที่เหนียวแน่นของตัวเอง ก็เริ่มได้เลยตอนนี้บน Facebook นะ!
