แม้จะพึ่งเป็นช่วงต้นปี 2024 แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลาย ๆ วงการเริ่มมีการสรุปเทรนด์ และอัปเดตสิ่งที่น่าจับตามองในอนาคตกันบ้างแล้ว เช่นเดียวกับวงการการตลาดที่วันนี้ RAiNMaker จะมาสรุป Top 10 Marketing Trends 2024 จากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ให้รู้กัน!
AI และระบบอัตโนมัติทางการตลาด
ปัจจุบัน AI ถูกนำมาใช้เพื่อกำหนดนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ของลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างความพึงพอใจที่รวดเร็วมากขึ้น และทำให้แบรนด์มีส่วนร่วมกับผู็บริโภคแบบเรียลไทม์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม และชี้แนะการตัดสินใจก่อนซื้อผ่าน AI และระบบอัตโนมัติทางการตลาด
ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำแคมปเปญได้ และทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์แบบรายบุคคล (Personalized) มากขึ้น เพราะแคปเปญยุคนี้ต้องใช้ข้อมูลอินไซต์มาสร้างประสบการณ์
เข้าถึงลูกค้าแบบเจาะจงจากการวิเคราะห์ Big Data
เพราะยุคนี้เรื่องของ Big Data และ Machine Learning พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกของการทำการตลาดแบบเจาะจงรายบุคคล ทำให้ Big Data ยังคงเป็นเรื่องสำคัญทั้งกับบริษัทขนาดเล็ก และบริษัทขนาดใหญ่ เพราะในปัจจุบันลูกค้ามักจะคาดหวังการให้ประสบการณ์ที่ปรับแต่ง และเหมาะกับตัวเองที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งร้านค้าปลีก และแบรนด์ก็ต้องใช้ข้อมูลจาก Big Data ในการวิเคราะห์อะไรที่ซับซ้อน เลยทำให้เกิดกลยุทธ์การแบบเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านคอนเทนต์ ผลิตภัณฑ์ ข้อเสนอ และการสื่อสารก็จะถูกปรับไปด้วย
Answer Engine Optimization (AEO)
หรือการเกิดเครื่องมือการตอบคำถามแบบ AEO ที่จะเปลี่ยนทิศทางของการตลาดในปีนี้ แม้ Search Engine Optimization (SEO) จะเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่แนวคิดกลยุทธ์การตลาดกำลังจะเปลี่ยนไป และเน้นเครื่องมือการตอบคำถามมากขึ้น
โดยเฉพาะการปรับคอนเทนต์ให้มีคำตอบชัดเจน และตรงกับคำถามที่ผู้ใช้อยากรู้มากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่ลึกกว่าการทำ SEO เสียอีก เพราะ AEO จะมีการคัดสรรคอนเทนต์ และข้อมูลที่กรองแล้วกลับไปตอบสิ่งที่ลูกค้าอยากรู้ โดยสามารถตอบกลับแบบเสียงอัตโนมัติได้ด้วย
Content Automation
การตลาดปี 2024 คือยุคที่ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์เป็นหลัก โดยมีเครื่องมือ กับ AI เป็นตัวช่วยในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า และเล่าเรื่องให้สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ เพื่อทำให้แบรนด์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ลึก และมีอินไซต์มากขึ้น
ซึ่งการลงทุนในแพลตฟอร์มคอนเทนต์อัตโนมัติ (Content Automation) จะช่วยทำให้แบรนด์รักษาความสม่ำเสมอแบบมีประสิทธิภาพได้ ทำให้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักการตลาด และกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์การตลาดอันดับต้น ๆ ด้วย เพราะผู้คนยุคนี้มักจะใช้เวลาไปกับการดูคอนเทนต์อยู่แล้ว
การตลาดยั่งยืนใส่ใจสังคม
ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้สนใจแค่เรื่องซื้อสินค้าหรือบริการเท่านั้น แต่ยังอยากเข้าใจค่านิยมที่แบรนด์ยึดถือ และเชื่อมั่นมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม โดยแนวโน้มของความคิดเหล่านี้มักจะมาจากปัญหาระดับโลก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความอยุติธรรมทางสังคม แบรนด์ในยุคนี้จะต้องสนับสนุนแนวคิดเกี่ยวกับความยั่งยืน และความมีจริยธรรมมากขึ้น ทำให้แบรนด์ที่เข้าใจโลก และเข้าใจผู้บริโภคมากกว่าจะได้เปรียบ
เพราะสามารถแสดงการปรับตัวไปตามค่านิยม และความคาดหวังของผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างความภักดี (Loyalty) และความเชื่อต่อผู้บริโภค รวมถึงสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ตัวเองได้ในระยะยาวด้วย
การตลาดเชิงทดลอง
การทดลองเป็นกระบวนการเริ่มต้นที่สามารถต่อยอดไปสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้เสมอมา ฉะนั้นการตลาดเชิงทดลองจึงเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันสำหรับธุรกิจในปัจจุบัน และต้องเน้นความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นให้มีการทดลอง และส่งเสริมให้ลูกค้าและพนักงานกลายเป็นกระบอกเสียงของแบรนด์
ทำให้กลยุทธ์ต้องผสานความต้องการนวัตกรรมทางการตลาด เข้ากับพลังของการสนับสนุนแบรนด์ และใช้ประโยชน์จากอิทธิพลของผู้สนับสนุนแบรนด์ด้วย เช่น ลูกค้าและพนักงานที่พึงพอใจ สามารถส่งผลให้ความพยายามทางการตลาดมีประสิทธิภาพ และแบรนด์น่าเชื่อถือมากขึ้น
Niche และ Micro-Influencer
การตลาดที่มีอินฟลูเอนเซอร์มีแนวโน้มโตขึ้นเรื่อย ๆ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอินฟลูเอนเซอร์กลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญสำหรับแบรนด์ไปแล้ว เพราะทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
แต่เปลี่ยนจาก Macro Influencer ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากมากไปเป็น Influencer ระดับ micro และ nano ที่ฐานผู้ชมไม่มากแต่เน้นปฏิสัมพันธ์สูง เพราะความจริงใจและความเกี่ยวข้องเฉพาะกลุ่มจะมีความสำคัญมากกว่าจำนวนผู้ติดตาม
นอกจากนี้เครื่องมือที่ใช้ AI ในการระบุตัว และติดตามผลลัพธ์ของอินฟลูเอนเซอร์ จะช่วยปรับปรุงกระบวนการทางการตลาดให้ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ และเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ ความภักดี และความสำเร็จทางธุรกิด้วย
การตลาดที่ยอมรับความหลากหลาย
แม้ว่าการไม่แบ่งแยกและการยอมรับความหลากหลายในทางการตลาดจะเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็คาดว่าจะยังคงเป็นเทรนด์สำคัญต่อไปตลอดปีในปีนี้ ซึ่งแนวโน้มนี้ได้รับแรงผลักดันจากผู้บริโภคที่ต้องการแบรนด์ที่ส่งเสริมค่านิยมที่ไม่แบ่งแยกผู้คนอย่างแท้จริง และแบรนด์ไหนที่ทำได้ก็จะไม่ได้ดึงดูดแค่ฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความภักดีกับพวกเขาได้ด้วย
Metaverse และการมีส่วนร่วมเสมือน
ในโลก Metaverse นักการตลาดมีโอกาสที่จะสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่น่าดึงดูดด้วยโลกเสมือนจริงมากขึ้นได้ เพราะจะช่วยโน้มน้าวทั้งการมีส่วนร่วม และความภักดีของผู้บริโภค โดยคาดว่าจะเห็นแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มเข้ามาลงทุนใน Metaverse เพิ่มมากขึ้น พร้อมดึงดูดผู้ใช้หลายล้านคน
ระบบนิเวศการตลาดที่ใช้เทคโนโลยี
หากอยากสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืนในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจยุคนี้ การตลาดในปัจจุบันจะต้องเน้นไปที่การสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีการตลาดที่ครอบคลุม เน้นการปรับตัว และ ROI อยู่เสมอ
ซึ่งหากแบรนด์มีโครงสร้างทางการตลาดที่ดี รู้จักต่อยอดผลิตภัณฑ์หรือกลยุทธ์ให้เป็นระบบนิเวศมากขึ้น ยกตัวอย่างแบรนด์ Apple ที่มีระบบนิเวศของตัวเอง ทำให้ผู้บริโภคเชื่อถือได้
แบรนด์ที่สร้างระบบนิเวศการตลาดของตัวเองก็จะเสริมความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และพัฒนาผลตอบแทนจากการลงทุนโดยการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างมีประสิทธิภาพได้นั่นเอง
ที่มา: ประชาสัมพันธ์จากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT)
