Telegraph สำนักข่าวชื่อดังจากประเทศอังกฤษซึ่งตอนนี้หลายสื่อได้จับตามองจากการที่ Telegraph เริ่มทำสิ่งที่เรียกว่า newsletters ด้วยการส่งอีเมลข่าวสารโดยเลือกตามความสนใจของผู้อ่าน โดย Telegraph หวังว่าจะสร้างฐานผู้ติดตาม Newsletters ของตัวเองให้ได้ถึง 3 ล้านคน
หลายคนเจอปัญหาเพจเงียบ หรือคนทำงานเอเจนซี่ชอบได้โจทย์ให้ช่วยกระตุ้นเพจลูกค้า ผมเป็นอีกคนที่ชอบทำเพจนู้นที-ทำเพจนี้ที ไอเดียเพจงอกใหม่เป็นไฮดรา ซึ่งปัญหาที่มักเจอคือ ‘เพจนิ่ง เพจร้าง ไม่เคลื่อนไหวใดๆ’ ซึ่งวันนี้ผมจะมาเล่าข้อคิดที่ได้พบเจอกับตัวเอง และฟังจากผู้มีประสบการณ์หลายๆที่รวมกันเป็น “ข้อคิด จัดการกับ Facebook Fanpage จากร้าง ให้กลับมาคึกคัก”
วันนี้มีทริคสั้นๆ มาฝากกัน เป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็มีหลายคนถามเข้ามากันเยอะ ในกรณีที่เราโพสต์บทความลงไปบน Facebook Page แล้ว แต่เราอยากแก้ไขภาพปกของบทความหลังจากนั้น สามารถทำได้หรือไม่?
ในยุคสมัยนี้ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องพึ่งการทำโฆษณาผ่าน Facebook ที่เป็น Platform หลักของคนไทยในปัจจุบัน ตั้งแต่แบรนด์ระดับท็อปยัน SMEs ที่เพิ่งตั้งไข่เลยทีเดียว ซึ่งหลายคนที่เป็นฟรีแลนซ์หรือเจ้าของธุรกิจเล็กๆ ไม่ได้มีบัตรเครดิตเอาไว้ทำธุรกรรมออนไลน์ (ผู้เขียนเองก็ไม่มี) โดยทาง Facebook เองก็จะตัดเงินผ่านทางบัตรเครดิตและ Pay Pal เท่านั้น (บัตรเดบิตส่วนใหญ่บ้านเราใช้ไม่ได้ T_T)
ปัญหาข่าวปลอมนั้นตอนนี้กลายเป็นปัญหาหลักของ Facebook ไปซะแล้วจากกรณีผลการเลือกตั้งของ Trump ที่ผ่านมาก็ยังคงเป็นตราบาปให้กับ Facebook มาจนถึงทุกวันนี้ Social Network อันดับหนึ่งของโลกยังไม่สามารถจัดการกับพฤติกรรมการบริโภคข่าวสารของคนบนโลกออนไลน์
April Fool’s Day หลังจากที่ทาง Facebook ประกาศลดการมองเห็นของ Page บน News Feed หลายต่อหลายครั้ง จนเป็นผลกระทบวงกว้างตั้งแต่ผู้ใช้, คนทำคอนเทนต์, เอเจนซี่โฆษณา รวมไปถึงแบรนด์ ในส่วนนี้ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์กันใหม่ทั้งหมด
ความยากที่สุดของการเริ่มต้นทำ Facebook Fanpage คือการหาผู้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมากด Like กดติดตาม ในช่วง 2 – 3 ปีก่อนเรามักจะเห็นหลาย Page มีการซื้อ Like ในช่วงเริ่มต้นเพื่อให้ Page ดูมีความน่าเชื่อถือ แต่ Like ที่ได้ซื้อมานั้นจะไม่มีคุณภาพเพราะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายและผู้คนที่มากดก็ไม่ได้สนใจเนื้อหาของเราและหนักสุดก็อาจจะเป็น Facebook User ที่ถูกตั้งขึ้นมามั่วๆ ซึ่งวิธีแบบนี้ขอไม่แนะนำให้ทำโดยเด็ดขาด
หลายต่อหลายครั้งที่ Facebook ประกาศลด Reach จาก Page รวมไปถึงปรับปรุงอัลกอริธึมในการนับ Reach ใหม่ ทำให้ทั้งคนทำคอนเทนต์และนักการตลาดกุมขมับไปตามๆ กัน
ในช่วงนี้เราจะเห็นว่ามีการขึ้น Hash Tag DeleteFacebook ในต่างประเทศ รวมถึงก็มีข่าว Facebook หุ้นตก และผู้บริหาร Facebook ก็เตรียมลาออก ดราม่านี้เกิดจากเรื่องราวที่ถูกมองว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างรุนแรง ที่เกิดจากการที่ข้อมูลผู้ใช้จำนวนมากของ Facebook ถูกส่งต่อไปยังบริษัทที่ใช้ข้อมูลในการทำเคมเปญด้านสังคมไปถึงการทำการหาเสียงให้แก่พรรคการเมือง
Facebook ลด Reach และการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งของ Social Media อันดับหนึ่งของโลก ทำเอาแบรนด์และคนทำเพจหวั่นไหน มาทำความรู้จักแพลทฟอร์มอื่นๆที่น่าสนใจเอาไว้ก่อน ที่วันหนึ่งต้องได้ใช้แน่ๆในลิสท์นี้
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
