อวสาน Creator Studio เมื่อ Meta ประกาศ และบังคับย้ายผู้ใช้ไป Business Suite อย่างเป็นทางการ ทำให้หลายคนที่คุ้นเคยกับ Creator Studio ถึงกับไปไม่เป็นกับบางฟีเจอร์ เพราะหลังบ้านเปลี่ยนไปไม่พอ หน้าบ้าน Facebook ก็มีการปรับนู่นนิดเปลี่ยนนี่หน่อยตามสไตล์พี่มาร์ก เหมือนที่ล่าสุดก็เปลี่ยนเพจเป็นแบบใหม่ที่แสดงผล Photo Album เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหมดเลย งานนี้กราฟิกงง! คอนเทนต์งง! เอายังไงกันต่อดี!?
แต่ไม่ต้องห่วง! เพราะวันนี้ RAiNMaker ได้รวบรวมวิบากกรรมหลัง Facebook ได้เปลี่ยนแปลงในปีนี้มาให้แล้ว รู้ก่อน (ทำใจให้) ชินก่อน แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกันค่ะทุกคน!
โพสต์ผ่าน Business Manager เท่านั้น คล้าย Creator Studio แต่รายละเอียดลึกกว่า
หลังจาก Creator Studio ถูกยกเลิก และปิดตัวไป เพราะ Meta จะให้ผู้ใช้ทุกคนหันมาใช้หลังบ้านบน Business Manager หรือ Business Suite เท่านั้น ซึ่งมีความสามารถโพสต์ และดูอินไซต์ต่าง ๆ ของเพจได้ แต่จะมีความละเอียดด้านเครื่องมือมากขึ้น และสามารถโพสต์จากหลังบ้านได้ทั้ง Facebook และ Instagram (Feed และ Stories) เลย
แต่ต้องอาศัยการปรับตัว และลองเข้าไปเล่นเครื่องมืออินไซต์ต่าง ๆ ดูก่อน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในระดับหนึ่ง ทั้งดีไซน์ และแถบเมนูต่าง ๆ แต่ต้องยอมรับเลยว่ามีการรีพอร์ตยอดเอ็นเกจเมนต์ และคอนเทนต์ที่เป็น Top-performing Post แยกทั้งคอนเทนต์ และวิดีโอที่ลงในเพจได้ละเอียดเลยทีเดียว
สลับแอคเคาท์ (Switch User) เปลี่ยนแอคเคาท์ทุกเพจได้ที่โปรไฟล์
แต่เดิม Facebook สามารถให้แอคเคาท์ส่วนตัวแก้ไขโพสต์ได้ เพราะถูกตั้งค่าให้ Edit Post ได้หากมีบัญชีอยู่ในการดูแลเพจ แต่ตอนนี้หากจะแก้ไขโพสต์ของเพจ จะต้องสลับแอคเคาท์เป็นของเพจเท่านั้น โดยเปลี่ยนได้เลยตรงรูปโปรไฟล์มุมขวาของโปรไฟล์เรา ซึ่งจะมีเพจที่ดูแลทั้งหมดขึ้นมาให้เลือกเปลี่ยน
ในช่วงแรกอาจจะต้องทำใจให้ชินทุกครั้งที่เห็นโพสต์ของเพจผ่านมาหน้าฟีดแต่อยากแก้ไข เพราะต้องสลับไปเป็น Facebook แอคเคาท์ของเพจนั้น ๆ ก่อน และไม่สามารถใช้แอคเคาท์ของเราเองแก้ไขได้ แม้จะเพิ่มลงในแอคเคาท์ที่เป็นผู้ Edit แล้วก็ตาม แต่ทำให้เปลี่ยนเพจต่าง ๆ ที่เราถือไว้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
Notifications ละเอียดขึ้น มีการแจ้งเตือนของเพจทุก Interactions
ในตอนแรกแจ้งเตือนจะมีเฉพาะแอคเคาท์นั้น ๆ ซึ่งแจ้งเตือนแอคเคาท์ส่วนตัว กับเพจจะแยกกัน แต่ Facebook นำมารวมกันแล้ว ส่งผลให้ไม่ว่าจะเข้าใช้งานอยู่แอคเคาท์ไหน ก็จะมีแจ้งเตือนทุกอย่างของเพจเข้ามาด้วย เช่น การรีแอ็กชันกับโพสต์ การแชร์โพสต์ การเข้าร่วมกลุ่ม การติดตามและถูกใจเพจใหม่ เป็นต้น
ซึ่งมีข้อดีคือทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของเพจได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงสามารถรีแอ็กชันหรือตอบกลับกับผู้ติดตามเพจได้เร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องรอให้เข้าไปเจอเองหน้าฟีด หรือรอแจ้งเตือนเฉพาะการคอมเมนต์ หรือแท็กถึงเพจเลย แต่การแจ้งเตือนที่ละเอียดยิบอาจทำให้ลายตาไปบ้าง
Photo Album สัดส่วนภาพ 2:3 ภาพปกคอนเทนต์ต้องนำมาต่อกันไซซ์ 1:1
จากเดิมที่ภาพปกคอนเทนต์สามารถใช้สัดส่วนภาพขนาด 1200 x 800 px ได้ ไม่ว่าภาพย่อยข้างในจะมีกี่ภาพก็ตาม แต่ในตอนนี้ Meta ได้ปรับ (แกมบังคับ) ให้ทุกเพจบน Facebook เริ่มไปใช้สัดส่วนภาพ 2:3 หรือโพสต์อัลบั้มที่มีภาพย่อยมากกว่า 3 ภาพขึ้นไป จะต้องทำปกไซซ์ 1:1 แล้วนำมาต่อกัน
RAiNMaker Tips
แบ่งภาพเป็นขนาด 1200 x 1200 px แล้วเลี่ยงวางตัวอักษรที่จะโดนผ่ากึ่งกลางภาพ จากนั้นเว้นช่องไฟทั้ง 2 ภาพไว้ประมาณ 20px เพื่อให้ภาพมีระยะทับกันพอดี เพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้ปกคอนเทนต์ต่อกันได้แล้ว
Professional Dashboard จำแนกข้อมูลละเอียดขึ้น
จากเดิมที่ Insight แบบ Overview จะแสดงผลเป็นกราฟ แต่ใน Professional Dashboard จะแสดงยอดเอ็นเกจเมนต์ของเพจแบบ Overview สรุปยอดมาให้ ตั้งแต่ยอดเอ็นเกจเมนต์ต่าง ๆ (Reach และ Engagement) ยอดผู้ติดตาม และยอดคนไลก์เพจใหม่ พร้อมยอด Interactions ทั้งหมดที่เพจได้รับ
Post Insights แยกยอด Reach, Impressions, Engagement
เมื่อเข้าไปที่ Professional dashboard ก็จะเจอกับ Page Overview ที่บอกรายละเอียดยอด Reach, Engagement และ New Page Likes เป็นปกติทั่วไป แต่เมื่อเลือกตรง Content จะเจอแสดงโพสต์ทั้งหมด ซึ่งสามารถเลือกดูคอนเทนต์ตามระยะเวลา์ที่โพสต์, ลำดับยอด Reach และลำดับยอดเอนเกจเมนต์ได้
รวมถึงกดเลือกดู Insight ของแต่ละโพสต์แบบละเอียด มีการแยกยอด Reach และ Impressions ให้เห็นชัดเจน รวมถึงยอดเอนเกจเมนต์ ย่อยข้อมูลลึกไปถึง Reactions ว่ามีคนกดแสดงความรู้สึกอะไรบ้าง รวมถึงยอด Link Clicks ต่าง ๆ
Inspiration Hub แนะนำคอนเทนต์ จุดประกายไอเดีย
เดิมที Inspiration มีใน Creator Studio อยู่แล้ว แต่พอย้าย Meta Business Suite ก็จัดหน้าเป็นระเบียบให้ดูง่ายขึ้น มีการจัดแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก คือ Reels for you ที่แนะนำคอนเทนต์วิดีโอสั้นสไตล์คล้ายเพจ หรือคอนเทนต์ที่คุณชอบดู, Popular topics ท็อปปิกคอนเทนต์ที่กำลังฮิต แบ่งหมวดหมู่มาให้เลือกดูได้ง่ายขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้กระโดดตามทันเทรนด์
และสุดท้าย Creators inspiration แนะนำเหล่าครีเอเตอร์ยอดนิยมบนแพลตฟอร์ม โดยตั้งข้อสังเกตได้ว่า Facebook จะค่อนข้างแนะนำเพจที่มีความคล้ายคลึง หรืออยู่ในหมวดหมู่เดียวกันกับเพจตัวเอง เพื่อให้เป็นเสมือนคลังไอเดียให้แรงบันดาลใจในการจุดประกายคอนเทนต์ใหม่ ๆ นั่นเอง
ส่วนตัวคิดว่าการแนะนำในส่วนของ Popular topics อาจจะยังไม่ตรงจุดขนาดนั้น เนื่องจากคอนเทนต์ที่แนะนำจะเน้นภาษาอังกฤษเป็นส่วนมาก แต่ในส่วนของ Creators inspiration คิดว่าค่อนข้างแนะนำคนที่อยู่ในแวดวงเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สามารถดูไอเดียภาพรวม และนำมาปรับใช้กับสไตล์เพจของตัวเองก็น่าจะพอไปได้อยู่
Comments Manager แสดงผลทุกคอมเมนต์ จัดการแค่คลิกเดียว
เมื่อกดไปที่ Professional dashboard จะเจอเครื่องมือที่เป็นเหมือนตัวกรองคอมเมนต์ทั้งหมดจากเพจ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่าแต่ละคอนเมนต์มาจากโพสต์ต้นฉบับไหน โดยการกดเข้าไปที่ View thread ใต้คอมเมนต์นั้น ๆ เพื่อดูโพสต์
นอกจากนี้ ยังสามารถค้นหาคอมเมนต์ด้วยชื่อผู้ใช้ คอมเมนต์ที่กดไลก์ ซ่อนไว้ และกดเลิกซ่อนได้ รวมถึงลบ ตอบกลับ และรายงาน หรือจะเลือกคอมเมนต์ทั้งหมดแล้วจัดการทีเดียวก็ได้เช่นกัน โดยสามารถเลือกทีเดียวได้สูงสุด 100 คอมเมนต์เลย เรียกว่าง่ายต่อการ Monitor คอมเมนต์มาก ๆ
เรียกว่าทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ๆ ที่เราคิดว่าสำคัญ และเจ้าของเพจจำเป็นต้องรู้ไว้ เพื่อให้ในการจัดการดูแลเพจ และสร้างคอนเทนต์ต่อไป หรือว่าใครมีส่วนไหนอยากแชร์เพิ่มก็สามารถคอมเมนต์มาคุยกันได้ ส่วนอัปเดตครั้งต่อไปจะเป็นอะไรต้องมาคอยลุ้นไปพร้อมกันแล้วล่ะ!
