News
จากรายงานของ Digiday ซึ่งอ้างอิงคำของคุณ Mark Thompson ตำแหน่ง CEO ของ New York Times ที่เขากล่าวถึง Trend ของโซเชียลในปีนี้ว่า Google ก็กำลังดีขึ้น ส่วน Twitter ก็กำลังถึงจุดพีค แต่ปัญหากับอยู่ที่ Facebook ที่ทำให้ Journalism อยู่ยากขึ้น
แน่นอนว่าในการทำคอนเทนต์นั้น ผู้ติดตามเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะนั่นหมายความว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะรับข่าวสารจากเรา และอยากเห็นเรื่องราวจากเรา ไม่ว่าช่องทางนั้นของเราจะมีผู้ติดตามแค่หลักร้อยหรือหลักแสนหลักล้านก็ตาม แม้ว่าการจะได้ใครซักคนมาติดตามอาจจะยากแล้ว แต่การรักษาให้คนเหล่านั้นยังคงพอใจกับสิ่งที่เขาเห็นและเห็นดีเห็นงามที่จะติดตามเราต่อนั้นยากกว่า
เราอยู่ในโลกที่แสนจะวุ่นวายและมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์ที่ว่านั้นอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่บอกเล่าได้เพียงประโยคสั้น ๆ แต่ก็ทำให้โลกทั้งใบแทบจะหยุดหมุน ไม่ว่าจะเป็นเหตุ การเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอานา การณ์วินาศกรรม 9/11 หรือการเสียชีวิตของนักร้องไมเคิล แจคสัน การสังหารโอซาม่า บินลาเดน
หลายคนเจอปัญหาเพจเงียบ หรือคนทำงานเอเจนซี่ชอบได้โจทย์ให้ช่วยกระตุ้นเพจลูกค้า ผมเป็นอีกคนที่ชอบทำเพจนู้นที-ทำเพจนี้ที ไอเดียเพจงอกใหม่เป็นไฮดรา ซึ่งปัญหาที่มักเจอคือ ‘เพจนิ่ง เพจร้าง ไม่เคลื่อนไหวใดๆ’ ซึ่งวันนี้ผมจะมาเล่าข้อคิดที่ได้พบเจอกับตัวเอง และฟังจากผู้มีประสบการณ์หลายๆที่รวมกันเป็น “ข้อคิด จัดการกับ Facebook Fanpage จากร้าง ให้กลับมาคึกคัก”
แน่นอนว่าเดี๋ยวนี้ไม่ว่าเราจะเป็นแบรนด์หรือคนทำคอนเทนต์ บล็อก เพจ หรืออะไรก็ตาม การมีช่องทางสื่อสารช่องทางเดียวนั้นเป็นเรื่องที่เรียกได้ว่าเสี่ยงชีวิตมาก โดยเฉพาะการฝากชีวิตไว้กับ Facebook ดังนั้นเราเชื่อว่าทุกคนคงมีหลายช่องทางในการสื่อสารหรือกระจายคอนเทนต์ (ใครที่ไม่มีก็รู้ตัวไว้ว่าควรมีซะ) ไม่ว่าจะเป็น Twitter, Instagram, LINE หรือแม้กระทั่งการทำ SEO เพื่อให้คอนเทนต์ของเราถูกถึงมาแสดงใน Google
ในการทำ Artwork สักชิ้นเพื่อลงบน Facebook Fanpage หรือสื่อ Social Media เรื่องของความสวยงามต้องมาเป็นอันดับต้นๆเพื่อที่ผู้คนจะได้หันมาสนใจสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารออกไป ซึ่งส่วนประกอบบน Artwork นั้นจะประกอบไปด้วย รูปภาพ, ลายกราฟิก และข้อความ ในส่วนของข้อความถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญเพราะการสื่อสารจะดีเยี่ยมก็เพราะด้วยข้อความ
ปัจจุบันบน Social Media ต่าง ๆ จะมีพื้นที่ไว้ให้เราเชียน Biography หรือ About เกี่ยวกับตัวเราหรือแฟนเพจของเรา ซึ่งบริเวณนี้จะถูกนำมาโชว์ด้านล่างโปรไฟล์ของเรา ซึ่งนับว่ามีความสำคัญมากในการช่วยให้คนที่กดเข้ามาดูหน้าโปรไฟล์ของเราหรือแบรนด์เรามีโอกาสจะรู้จักกับเรามากขึ้น ในวันนี้ทีมงาน RAiNMAKER ก็จะมาขอแนะนำ 5 เทคนิคการเขียน Bio หรือ About ให้หน้าสนใจพร้อมตัวอย่างการเขียน Bio จากแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จบน Social Media มาไว้เป็นแนวทางให้กับทุกคน 1.เขียนอธิบายตัวเองให้สั้นที่สุด กระชับที่สุด ให้คนรู้จักเรา หลัก ๆ เลยก็คือ เราคือใคร, เราต้องการหรือจะทำอะไร แล้วที่สำคัญคือ เราจะให้อะไรกับคนที่อ่านหรือคนที่ติดตาม ซึ่งจะเป็นการให้คุณค่ากับโปรไฟล์ของเรา โดยเฉพาะการบอกว่าเราจะให้อะไรกับคนอ่านหรือติดตาม เพราะถ้าเขารู้สึกว่าเราสามารถให้ในสิ่งที่เขาต้องการได้โอกาสที่เขาจะติดตามเราก็มีมากขึ้น ตัวอย่างจากบัญชี Twitter ของ Apple Music เราก็จะเห็นว่า Apple ทำการอธิบายบริการ Apple Music สั้น ๆ ว่า Millions of Songs, […]
ความยากที่สุดของการเริ่มต้นทำ Facebook Fanpage คือการหาผู้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมากด Like กดติดตาม ในช่วง 2 – 3 ปีก่อนเรามักจะเห็นหลาย Page มีการซื้อ Like ในช่วงเริ่มต้นเพื่อให้ Page ดูมีความน่าเชื่อถือ แต่ Like ที่ได้ซื้อมานั้นจะไม่มีคุณภาพเพราะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายและผู้คนที่มากดก็ไม่ได้สนใจเนื้อหาของเราและหนักสุดก็อาจจะเป็น Facebook User ที่ถูกตั้งขึ้นมามั่วๆ ซึ่งวิธีแบบนี้ขอไม่แนะนำให้ทำโดยเด็ดขาด
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า