เมื่อเราทำงานในสายคอนเทนต์ เรื่องของ License หรือ Permission ต่าง ๆ เป็นเรื่องที่เราต้องรู้ไว้อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะทุกชิ้นงานล้วนแต่มีลิขสิทธ์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ บทความ หรือแม้กระทั่งตัวอักษร ซึ่งสัญญาการอนุญาตนำไปใช้ก็จะแตกต่างกัน ทำให้เราต้องคอยระวังให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนฟ้องหรือเสียเงินได้
Schibsted สื่อเจ้าใหญ่จากประเทศนอร์เวย์เจอกับโจทย์ยากที่ต้องสื่อสารกับกลุ่มเยาชนอายุ 18-25 ปี ซึ่งในกลุ่มนี้เดิมทีมีอัตราการบริโภคข่าวสารแบบดั้งเดิมน้อยมาก ๆ อธิบายง่าย ๆ ก็คือหนังสือพิมพ์ก็ไม่อ่าน ทีวีก็ไม่ดู บทความยาว ๆ ก็ไม่อ่าน แต่ด้วยวิธีคิดที่น่าสนใจทำให้ Schibsted ตัดสินใจทำแอพใหม่ที่ชื่อว่า Peil ซึ่งเน้นการทำคอนเทนต์ในรูปแบบที่รวดเร็ว อ่านได้ง่าย และเจาะกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะ ผลที่ได้ก็คือช่วยดันยอดการเข้าถึงคอนเทนต์ข่าวสารในกลุ่มเยาวชนได้มาก 25-35% เลยทีเดียว
ใกล้การเลือกตั้งเข้ามาทุกที เราได้เห็นการจัดเวทีดีเบตสำหรับพรรคการเมืองต่าง ๆ มาเยอะทั้งจากทางช่องทีวีเอง หรือทางสื่อใหญ่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไทยรัฐ Workpoint หรือ ช่องนู้นนี้เต็มไปหมด แต่มีสื่อรายหนึ่งที่เพิ่งต่อตั้งมาได้ 2 ปีและเป็นเว็บไซต์ที่สามารถก้าวเข้ามาจัดดีเบต โดยเชิญตัวแทนพรรคระดับแคนดิเดตนายกมาได้ค่อนข้างครบถ้วนสมน้ำสมเนื้อก็คือ The Standard
ก่อนหน้านี้เราเคยยกเรื่อง Bloomberg แนะนำ 5 เคล็ดลับทำ Instagram ยังไงให้ปัง ใช้รูป คำคม และ Story แต่อีกหนึ่งวิธีที่ Bloomberge ทำและผลตอบรับออกมาดีมาก ๆ เลยก็คือ Video ซึ่งบทความนั้นเราตอบคำถามไปแล้วว่าเป็น Publisher สายให้ความรู้จะมีวิธีการทำคอนเทนต์อย่างไรได้บ้าง ในตอนนี้เราจะมาดูเรื่องของวิดีโอบนโซเชียลที่กำลังมาแรงมาก ๆ อย่าง Instagram
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Digiday ได้ลงบทความที่น่าสนใจมากชื่อว่า ‘We’ve made a huge mistake’: European publishers sound off on subscriptions and tech talent shortages กล่าวถึงแนวคิดของบรรดา Premium Publisher ทั้งหลาย ๆ (ถ้าเทียบในไทยก็จะแนว ๆ The Standard, The MATTER ตระกูล .co ต่าง ๆ) ที่ออกมาบ่นบอกว่าจริง ๆ แล้วเป็นความผิดของเราเองที่ทำให้คนดูเข้าใจว่าคอนเทนต์พวกนี้เป็นของฟรี และควรจะได้มาฟรี ๆ ไม่ต้องเสียเงิน ทำให้พวกเขาต้องพึ่งรายได้จากการโฆษณาทั้งแบบ Advertorial หรือแบบ Banner ต่าง ๆ ที่ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยจะทำเงินได้ดีซักเท่าไหร่
เปิดเพจมาไม่เห็นจะดังเลย ทำยังไงให้คนสนใจ อยากมีตัวตนบนโลกโซเชียล นี่น่าจะเป็นปัญหาของใครหลาย ๆ คนที่เริ่มต้นทำเพจหรือเว็บไซต์ขึ้นมา คำถามที่เราจะถามย้อนกลับไปก็คือ แล้วคุณได้ซีนหรือยังล่ะ เปิดตัวหรือยัง ? การเปิดตัวที่ว่า ไม่ใช่การ Launch เว็บไซต์หรู ๆ เชิญนักข่าวมาแล้วบอกว่าฉันคือใคร แต่เป็นการหาจังหวะที่จะเข้ามาทำอะไรบางอย่างที่แสดงถึงตัวตนของเราต่างหาก
คิดไม่ออก ไปต่อไม่ได้ เป็นภาวะที่ครีเอเตอร์ทุกคนเคยเจอ อันนี้คนนั้นก็ทำไปแล้ว มุขนี้ก็เล่นบ่อยแล้ว แล้วจะเอายังไงกันดีเนี่ย และในบางครั้งเมื่อเกิดอาการคิดไม่ออกขึ้นมาทำให้เกิดการนอยด์ รู้สึกไม่ดีกับคอนเทนต์ที่ทำ ถ้าอย่างนั้นแล้วก็ได้เวลาแก้ไข ทุบ! ทุบ! ทุบ! กำแพงที่ทำให้ไอเดียตัน
ปัญหาข่าวปลอมและคอนเทนต์ชวนเชื่อ ไม่ได้อยู่แค่ใน Facebook หรือ Twitter เท่านั้น บน YouTube ก็ได้รับปัญหานี้กับเขาเช่นกัน ทีนี้ข่าวปลอมบน YouTube จะเป็นแบบไหน ? คำตอบก็คือ มันอยู่ในรูปของวิดีโอชวนเชื่อ วิดีโอทฤษฏีสมคบคิด หรือการพูดชี้นำทางการเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ในรูปแบบของวิดีโอให้ความรู้ทั่วไปบน YouTube
เป็นเวลานานหลายเดือนพอสมควรแล้วหลังจากที่ Instagram ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่คือ IGTV เป็น Platform Video ให้ Publisher สามารถสร้างคอนเทนต์วิดีโอ “แนวตั้ง” ความยาวเท่ากับวิดีโอทั่ว ๆ ไปมาลงได้ ซึ่งก็เหมือนกับว่า IGTV กำลังจะเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอแห่งอนาคตที่ Facebook วาดฝันไว้ แต่กลายเป็นว่าทุกวันนี้ IGTV กลับเต็มไปด้วยคอนเทนต์ที่ถูกดัดแปลงมาจากวิดีโอที่ไม่ได้ทำมาเพื่อ IGTV แต่เอามาปรับแต่งเพื่อ reupload บน IGTV เฉย ๆ
ผู้เขียนเคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วว่าโมเดลการหารายได้ที่เรียกว่า Reder Payment เป็นหนึ่งในวิธีการที่ทำให้บรรดา Publisher ในต่างประเทศมีรายได้กัน ซึ่งเราก็จะพบว่าบรรดาเว็บข่าวดัง ๆ หลาย ๆ เว็บก็ล้วนแต่มีส่วนที่เป็น Subscription หรือสมัครรับข้อมูล ในการจ่ายเงินเพื่ออ่านเนื้อหาแบบพิเศษ (Premium) ทั้งนั้น ร่วมกับการหารายได้จากช่องทางอื่น เช่น การโฆษณาหรือ Advertorial
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
