Social
เวลาพูดถึงเว็บโหลดภาพฟรี หลายคนอาจจะนึกถึงเว็บแจกภาพต่าง ๆ ที่เราสามารถเข้าไปโหลดมาใช้ในงานได้ แต่เราอาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วแหล่งภาพฟรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกกลับเป็นองค์กรอวกาศอย่าง NASA ของประเทศสหรัฐอเมริกาฯ
ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอบทความเรื่อง ข้อสงสัยเด็กไทย อยากเป็น Blogger, Youtuber, Game Caster อาชีพ เรียนคณะอะไรดี ซึ่งพูดถึงมุมองของนักเรียนว่าถ้าอยากทำงานในสายสื่อปัจจุบัน ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ จะต้องเรียนคณะไหน ซึ่งก็มีการกล่าวถึงคณะนิเทศศาสตร์ ณ ปัจจุบันบอกว่า เวลาแค่ 4 ปีในมหาลัยที่เหมือนสั้น อาจจะยาวนานพอที่จะทำให้ Trend ใน Trend นึงในการทำคอนเทนต์หายไปเลยก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่เราน่าจะเก็บเกี่ยวคือทักษะและกระบวนการคิดที่สามารถนำไปต่อยอดได้ มากกว่าวิธีการ
เป็นประจำที่ทุกปีนิตยสาร Time จะมีการจัดอันดับบุคลคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก 100 อันดับ ซึ่งทำมานานหลายสิบปี ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า List ของแต่ละปีนิยามของคำว่า “ทรงอิทธิพล” หรือ influential นั้นเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะด้วยจากแนวคิดกระจายศูนย์กลางอำนาจ (decentralized) หรือการเปลี่ยนแปลงของสื่อ การที่สื่อดั้งเดิมหรือ Traditional Media ไม่ใช่กระแสหลักที่ควบคุมแนวคิดของคนบนโลกต่อไป
เป็นคำพูดติดปากสำหรับหลาย ๆ คนที่ทำคอนเทนต์คือ ต้องเร็ว สมัยนี้ทำคอนเทนต์ต้องไว แต่เคยคิดกันจริง ๆ ไหมว่าเรานิยามความไวแบบไหน สมมติว่าเราทำเว็บข่าว เวลามีข่าวใหม่ ๆ ออกมา เวลาที่เราใช้ในการเรียบเรียงเป็นภาษาของตัวเอง ใส่บทวิเคราะห์สั้น ๆ ทำภาพ และกด Post ใช้เวลาหลักนาทีเลขตัวเดียวแบบนี้ถือว่าไวหรือเปล่า ถ้าถามกันแบบนี้ก็อาจจะตอบยาก แต่ถ้าเรามองว่าความไวของเรามีวัตถุประสงค์ ก็อาจจะพอให้เราเข้าใจศาสตร์ของการทำคอนเทนต์ไวมากขึ้น
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้เจอประเด็นหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเกมแคสเตอร์ที่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความรุนแรงในหมู่เยาชน หรือการนำเสนอประเด็นที่สุดท้ายกลายเป็นการสร้างหรือกระตุ้นความเกลียดชังจนเกิดสถานการวุ่นวายบนโลกแห่งความจริงนอกจอ เวลาที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ความรับผิดชอบก็จะถูกโยนให้เป็นหน้าที่ของผู้รับข่าว หรือ Audience เอง ว่าไม่มีการแยกแยะ หรือมีพฤติกรรมที่ถูกชักจูงโดยปัจจัยอื่นที่เหนือการคิดวิเคราะห์ของตน
ปกติแล้วเวลาเราเริ่มมี Branding เป็นของตัวเองไม่ว่าจะในฐานะ Blogger, Youtuber หรือเป็นกลุ่ม Publisher อะไร สิ่งที่เราจะมีก็คือพวกโทนสี logo หรือภาพติดตาที่พอมองออกแล้วรู้สึกว่าเป็นเรา แต่อีกหนึ่งในไอเทมยอดฮิตที่หลาย ๆ กลุ่มมีก็คือเสื้อ ซึ่งแน่นอนว่าเสื้อเป็นสิ่งที่สวมใส่อยู่ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่แค่ของประดับ ของตกแต่งเฉย ๆ ธรรมดา แต่เป็นสิ่งที่มี Function ในโลกของความเป็นจริง
เวลาที่เราดูคลิปบน YouTube สิ่งที่เราจะเจอแน่ ๆ ก็คือตอนท้ายคลิปจะมีการบอกว่า อย่าลืมกดติดตาม กดไลค์ กด Subscribe หรือให้กดรับ Notification ด้วย ซึ่งเราอาจจะได้ยินกันจนเป็น Standard ของการทำ YouTube ไปแล้ว และวัตถุประสงค์ของมันค่อนข้างชัดเจนก็คือให้คนกดติดตาม จะได้มีคนดูเยอะ ๆ แต่จริง ๆ แล้วแนวคิดแบบนี้นั้นเรียกว่า Call-to-action และไม่ได้นำมาใช้ได้แค่เพียงคลิปบน YouTube เท่านั้น จริง ๆ แล้ว แนวคิด Call-to-action สามารถนำมาใช้ได้กับทุกการทำคอนเทนต์ในทุกรูปแบบถ้าหากเราเข้าใจวัตถุประสงค์ของมันจริง ๆ
ถ้าเราจะเขียน พูด หรือบอกเล่าเรื่องราวอะไรซักเรื่องลงบนอินเทอร์เน็ต เราจะต้องทำอย่างไร ต้องหาข้อมูล ต้องเช็คความถูกต้องของข้อมูล ต้องดูว่าคนดูจะชอบไหม ต้องดูว่ากระแสตอบรับในเรื่องนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างหากลงไป ต้องดูตัวอย่างจากคนอื่น อะไรเต็มไปหมด ในกระบวนการก่อนที่จะได้มาซึ่งคอนเทนต์ อย่างไรก็ตามแม้ว่าคอนเทนต์นั้นจะมีที่มาอย่างไร สุดท้ายแล้วเราสามารถแบ่งมันออกได้เป็น 2 แบบ ได้แก่ ข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็น
หลายคนคงเคยลอง Search ชื่อของ Blog ตัวเอง, ชื่อของเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งชื่อของตัวเองลงบน Google เพื่อดูว่าผลการค้นหาจะขึ้นอะไรมาบ้าง จริง ๆ แล้วการกระทำแบบนี้นั้นมีประโยชน์หลายอย่างมากไม่ได้แค่ทำสนุก ๆ เท่านั้น เพราะเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้เราสามารถรับมือและปรับตัวให้เข้ากับกับพฤติกรรมของผู้ใช้หรืออย่างน้อยก็คือคนที่ค้นหาชื่อของเราได้
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า