
Spotify ประกาศความร่วมมือกับ 3 ค่ายเพลงรายใหญ่ของโลกได้แก่ Sony Music, Universal Music และ Warner Music เพื่อพัฒนา AI ด้านดนตรีช่วยเสริมศักยภาพให้ศิลปิน และนักแต่งเพลงให้เชื่อมโยงกับผู้ฟังได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมจากกการใช้งาน AI ที่ไม่เหมาะสม เช่น การสร้างเพลง หรือเสียงร้องเลียนแบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
การร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Spotify ประกาศว่าจะดำเนินการลบเพลงที่สร้างจาก AI โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาแพลตฟอร์มได้มีการลบเพลงลักษณะนี้ไปแล้วกว่า 75 ล้านเพลง และยังเตรียมเปิดตัวระบบคัดกรองสแปมในช่วงต้นปีหน้าเพื่อจำกัดการเผยแพร่เพลงที่ใช้ SEO หรือบอตเพื่อปั่นยอดฟัง
โดย Spotify ได้วางแนวทางสำคัญ 4 ข้อในการพัฒนา AI เพื่อให้เกิดประโยชน์กับศิลปิน และอุตสาหกรรมดนตรี ดังนี้
- สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม: Spotify จะทำงานร่วมกับค่ายเพลง, ผู้จัดจำหน่าย และผู้ถือครองลิขสิทธิ์ เพื่อพัฒนา AI ที่มีมาตรฐาน และได้รับความยินยอมถูกต้อง
- ให้สิทธิ์กับศิลปินในการเลือกเข้าร่วม: ศิลปิน และนักแต่งเพลงจะมีสิทธิ์ในการตัดสินใจว่าจะใช้ AI หรือไม่ เพื่อให้ศิลปินสามารถควบคุมผลงานของตัวเองได้เต็มที่ทั้งในด้านเสียง, เนื้อหา และการนำเสนอ
- ให้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม: หากมีการใช้ AI เข้ามาช่วยในกระบวนการแต่งเพลงจะต้องมีการหักเปอร์เซ็นต์รายได้ และค่าลิขสิทธิ์ที่โปร่งใส เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งรายได้จากผลงานของศิลปินตัวจริง
- ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างศิลปิน และแฟนเพลง: AI ระบบใหม่นี้เป็นสะพานให้แฟนเพลงได้รู้เบื้องหลังของศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำเพลงใหม่, สร้างเพลย์ลิสต์เฉพาะบุคคล หรือฟีเจอร์ที่ช่วยให้เข้าถึงเบื้องหลังของเพลงมากขึ้น
ทั้งนี้ Spotify ยังจับมือกับ DDEX (Digital Data Exchange) เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในการเปิดเผยขั้นตอนที่มีการใช้ AI ช่วยทำเพลง เช่น เสียงร้อง, ดนตรี หรือการมิกซ์เสียง นอกจากนี้แพลตฟอร์มยังออกนโยบายใหม่เกี่ยวกับการเลียนแบบเสียงศิลปิน (AI Voice Clone) พร้อมหาแนวทางการจัดการอย่างชัดเจน ในกรณีที่มีการละเมิดสิทธิ์เสียงของศิลปิน
สุดท้ายนี้ Spotify ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ‘AI กำลังเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ในการสร้างสรรค์ผลงาน แต่บางครั้งก็อาจถูกใช้ในทางที่ผิดได้เช่นกัน เป้าหมายของเราคือการทำให้ AI ด้านดนตรีเติบโตอย่างมีมาตรฐานในอนาคต และปกป้องจิตวิญาณของศิลปินให้ยังคงอยู่ต่อไป’