ดูเหมือนว่า TikTok กำลังโฟกัสเรื่องการขยายธุรกิจ Local Service ในสหรัฐฯ ตามที่มีประกาศรับสมัครงานตำแหน่งใหม่ในบางรัฐ เช่น ซีแอตเทิล, ลอสแอนเจลิส และนิวยอร์ก ที่ระบุว่ากำลังมองหาพนักงานมาช่วยประเมินโอกาสในการเชื่อมต่อระหว่างร้านค้าและผู้ขายในท้องถิ่นกับครีเอเตอร์และผู้ใช้ TikTok รวมถึงบางตำแหน่งมีการประกาศหาครีเอเตอร์สายไลฟ์สไตล์ที่เชี่ยวชาญด้านอาหารและการท่องเที่ยวอีกด้วย
ซึ่งคาดว่า TikTok น่าจะเตรียมมุ่งหน้าขยายการเชื่อมต่อระหว่างร้านค้าและผู้ขายในท้องถิ่นกับครีเอเตอร์และผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม รวมถึงผลักดัน Local Service และหาโอกาสในการสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์และร้านค้ามากขึ้นในอนาคต
ก่อนหน้านี้ TikTok ได้ขยายบริการด้านการชอปปิงบนแพลตฟอร์ม ซึ่งประสบความสำเร็จในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย การมุ่งเน้นไปที่ Local Service จึงอาจเป็นอีกหนึ่งทางในการเพิ่มการหมุนเวียนเงินบนแพลตฟอร์ม ซึ่ง Douyin หรือ TikTok ของประเทศจีนได้นำร่องไปก่อนแล้ว ด้วยการเชื่อมต่อบริการต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม
ไม่ว่าจะเป็น การใช้นักพัฒนาที่เป็น Third-party ในการรวมแอป ‘Mini Programs’ แอปขนาดเล็กที่เข้ามาทำงานภายใต้ Douyin Ecosystem โดยตรง ซึ่งมีทั้งบริการสั่งอาหาร, เรียกรถ และซื้อบัตรคอนเสิร์ตได้บนแพลตฟอร์ม ซึ่งสิ่งนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันให้กับผู้ใช้งาน อีกทั้งยังขยายการตลาดบนแพลตฟอร์มให้คึกคักมากขึ้น นี่จึงเป็นจุดที่ Douyin ใช้ในการดึงดูดให้คนมาใช้แพลตฟอร์มมากขึ้น และอาจเป็นโอกาสที่ดีหาก TikTok ในหลายประเทศนำมาปรับใช้เช่นกัน
จากอดีตจนปัจจุบัน การใข้จ่ายบน TikTok มีอัตราการเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการชอปปิง ถึงแม้จะยังสู้ Douyin ในจีนไม่ได้ก็ตาม แต่ก็ถือเป็นผลตอบรับที่ดีสำหรับ TikTok หาก TikTok สามารถเพิ่มให้แพลตฟอร์มตอบโจทย์บริการครอบคลุมเหมือน Douyin หรือเพิ่มการสนับสนุน Local Service มากขึ้น ก็อาจประสบความสำเร็จ และสร้างรายได้มหาศาลเหมือนจีนก็เป็นได้
ยิ่งตอนนี้ที่สถานการณ์ของ TikTok มีความสุ่มเสี่ยงที่จะโดนแบนในสหรัฐฯ การที่แพลตฟอร์มพยายามเตรียมหาทางออกโดยการขยายตัวไปยัง Local Service มากขึ้นตามที่ประกาศรับสมัครงานตำแหน่งใหม่ในแต่ละรัฐ ก็อาจเป็นตัวช่วยให้ TikTok เข้าถึงทุกคน และอาจเพิ่มโอกาสเลี่ยงการโดนแบนได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มบริการ Local Service บน TikTok ในสหรัฐฯ นอกจากการประกาศรับสมัครงานตำแหน่งใหม่ ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไปว่าในอนาคต TikTok จะเดินหน้าไปในทิศทางใด
ที่มา: SocialMediaToday